ผลิตภัณฑ์: PlayStation VR
ราคา: 15,990 บาท
วันวางจำหน่าย: 13 ตุลาคม 2016
PlayStation 4 Pro เครื่องเกมส์รุ่นเรือธงล่าสุดจากโซนี่เพิ่งได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมายังคงเป็นกระแสร้อนอยู่ในวงการเกมส์คอนโซลครับ เพราะด้วยพลังการประมวลผลการ์ดหน้าจอที่แรงเป็น 2 เท่าของ PS4 และมีการบูทความเร็ว Clock Speed ของซีพียูขึ้นมาทำให้ PS4 Pro สามารถประมวลผลภาพออกมาได้กว่า 4.2 TFLOP จากเดิมเพียงแค่ 1.84 TFLOP ทำให้เครื่องมีประสิธิภาพพอที่จะประมวลภาพออกมาระดับ 4K ได้ สำหรับรีวิวเต็มของเครื่อง PS4 Pro สามารถคลิกได้ที่นี่ครับ อีกเหตุผลหนึ่งที่โซนี่ได้พัฒนาและวางจำหน่าย PS4 Pro อย่างรวจเร็วเนื่องจาก PlayStation VR ครับแว่น Visual Reality จากโซนี่ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาครับ เพราะจริงๆ แล้วโซนี่วางแผนที่จะรองรับเกมส์ PS VR บน PS4 Pro ตั้งแต่แว่นวางจำหน่ายแล้ว และโซนี่ยังเครมอีกว่าภาพเกมส์ PS VR ทุเกเกมส์จะดูดีในแว่น PS VR ครับ แม้ว่าความละเอียดหน้าจอของแว่น PS VR จะแค่ 1280 x 800 เท่านั้น ทำให้วันนี้ผมจะมารีวิว PlayStation VR อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ผมจะรีวิวบน PS4 Pro ครับ
ความรู้สึกที่แตกต่าง
PlayStation VR นั้นใช้จอความละเอียด 1280 x 800 ที่ไม่ใช่ Full HD สักทีเดียว บวกกับถ้าภาพเกมส์มันเบลอหรือไม่ชัดนั้น มันอาจจะเป็นที่เราใส่แว่นไม่ตรงตำแหน่ง ภาพมันจะออกมาเบลอครับ แต่อันนั้นมันคือภาพเบลอครับ แต่สำหรับความคมชัดของภาพเมื่อตอนที่ผมเล่น PS VR กับเครื่อง PS4 รุ่นธรรมดานั้น ภาพมันไม่ค่อยคมชัดสักเท่าไร่ เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าบางฉากของเกมส์ฟิกเซลล์บางครั้งแตก ไม่เรียบเนียน ซึ่งสำหรับใครที่ซีเรียสเรื่องพวกนี้ PS VR นี้ไม่เหมาะสำหรับท่านเลยครับ ไม่ไม่ใช่แค่นั้นครับบางครั้งเราจะเห็นได้ชัดว่าเฟรมเรตนั้นตกลงต่ำกว่า 30 FPS ครับ
แต่หลังจากที่ลองเล่น PS VR บนเครื่อง PS4 Pro ผมจำได้แม่นเลยว่านาทีที่เล่น Until Dawn: Rush Blood บนเครื่อง PS4 Pro ด้วยแว่น PS VR นั้นมันเห็นได้ชัดเจนเลยครับว่าภาพมันคมชัดขึ้นสังเกตด้วยตาปล่าวได้ครับ สีสันสดขึ้น ตอนแรกผมก็ไม่คาดว่าภาพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้ครับ ที่สามารถสังเกตได้ชัดที่สุดคือขอบฟิกเซลล์ที่เรียบเนียนขึ้น ภาพคมขึ้น โดยคราวนี้ผมรู้สึกว่าตัวเกมส์มันดูสมจริงขึ้นด้วย นอกจากฟิกเซลล์ที่เรียบเนียนขึ้นแล้ว แสงของเกมส์ยังดูดีขึ้นด้วยเมื่ออยูในจอ PS VR ครับ
DriveClub VR เป็นอีกเกมส์ที่หากเล่นบน PS4 ธรรมดานั้นฟิกเซลล์ของภาพจะแตกเยอะมาก ภาพนั้นไม่คมชัดเช่นเดียวกับหลายๆ เกมส์ครับ และที่แย่ไปกว่านั้นคือเวลารถเคลื่นตัวเร็วๆ เฟรมเรตจะตกเยอะมาก แต่เมื่อได้ลองเล่นบน PS4 Pro อีกครั้งภาพดูดีขึ้นอย่างที่กล่าวไปเมื่อย่อยหน้าก่อน แต่สิ่งที่ประทับใจคือเฟรมเรตนิ่งกว่าเดิมมากครับ แสงสี ของเเกมส์ก็ดูดีขึ้นเช่นกัน (แตกก็เล่นนานๆ ก็แทบอาเจียนเหมือนกัน)
สิ่งที่ PS VR ยังด้อยอยู่แม้เล่นบน PS4 Pro
ถึงแม้ภาพที่ออกมาจะมีการปรับปรุงที่เราสามารถเห็นได้ชัดบน PS4 Pro แต่ก็ไม่อาจจะหลี่กเลี่ยงภาพเบลอได้ครับ แน่นอนครับหากเราใส่แว่น PS VR ไม่ตรงจุด ภาพที่แสดงออกมาจะคลากเคลื่นได้ครับ จึงทำให้เกิดภาพที่เบลอครับ หรือภาพเซ็ทพื้นที่ๆ ใช้เล่น PS VR ไม่ดีนั้นก็อาจจะทำให้เห็นไม่เต็มจอของเกมส์นั้นๆ เช่นกันครับ อย่างที่เคยรีวิวครับแม้ภาพจะสวยงามมากมาย แตกตังเกมส์เพลย์ก็ยังชวนให้มึน หรือเวียนหัวอยู่ครับ อาทิเช่นเกมส์ DriveClub, Call Of Duty VR Mission หรือเกมส์อื่นๆ ที่ภาพวิ่งเร็วๆ นั้นจะทำให้เวียนหัวเอามากๆ ซึ่งใครที่เล่น Visual Reality ทุกต้องทำใจ และนักพัฒนาเกมส์ต้องหาวิธีเอาชนะจุดๆ นี้ให้ได้ครับ
สรุป
สรุปสั้นได้ว่าหากเล่น PS VR บนเครื่อง PS4 Pro ภาพกราฟฟิกของเกมส์นั้นๆ จะดูสวยขึ้นจริงทั้ง ความคมชัด สีสันภาพ และแม้แต่เฟรมเรตของเกมส์สูงและดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต้องขอบคุณประสิทธิภาพของ PS4 Pro ที่มีความแรงในการประมวลผลมากขึ้น จึงทำให้ภาพเกมส์ต่างๆ ของ PS VR นั้นดูดีขึ้นมากครับผม สำหรับรีวิว PlayStation VR แบบเต็มสามารถคลิกดูได้ที่นี่ครับ สุดท้ายนี้ PS VR วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย PAD บางสาขาที่ร่วมรายการในราคา 15,990 บาทครับ หรือ PlayStation 4 Pro ก็เช่นกันครับสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ในราคา 16,990 บาทครับผม ผมหวังว่าด้วยบทความนี้จะช่วยท่านตัดสิ้นใจซื้อ PS VR หรือ PS4 Pro ไม่มากก็น้อยครับสำหรับวันนี้สวัสดีครับ
รีวิวโดย Play4Thai.com