เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าโซนี่บริษัทผู้พัฒนาและผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งประเทศญี่ปุ่นนั้นห้าปีที่ผ่านมาขาดทุนมาโดยตลอด และไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ หรือ Vaio ไป วันนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์เริ่มจะดีขึ้น โดยในวันนี้โซนี่เพิ่งจะปล่อยผลรายงานการเงินของโซนี่ในไตรมาสที่ 1 ในปีนี้จากตั้งแต่ 1 เมษายนไปจนถึง 3o มิถุนายนที่ผ่านมา และในระหว่างสามเดือนนั้นโซนี่ได้จำหน่าย PS4, PS3 และ PS2 ที่เหลือ รวมกันมากกว่า 3.5 ล้านเครื่อง สำหรับเครื่องเกมพกพา PS Vita และ PSP จำหน่ายไปได้ 0.75 ล้านเครื่อง รวมถึงบริการบน PSN ทำกำไรได้มากถึง 43 ล้านเหรียญสหรัฐ สุดท้ายเกมส์ทั้งแบบแผ่นและดิจิตอลดาวน์โหลดสามารถทำกำไรได้มากกว่า 390 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ธุรกิจเพลย์สเตชั่นกลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังจากที่ขาดทุนเมื่อปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน.
ในรายงานระบุไว้ว่า “ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 95.7% ในปีนี้เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 257.5 พันล้านเยน หรือ 2,550 ล้านเหรียญสหรัฐ ยอดขายเพิ่มขึ้นเพราะหลักๆคือ PS4 ที่วางจำหน่ายเมือนวันที่ 15 พฤศจิกายน ทำให้บริการต่างๆนั้นคอยได้กำไรไปด้วย ซึ่งบริการ PSN เติบโตขึ้นถึง 101% ในปีนี้“ รายงานระบุต่อว่า “กำไรจำนวน 4.3 พันล้านเยน หรือ 43 ล้านเหรียญสหรัฐถูกบันทึกเป็นสถิติ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วขาดทุนไปถึง 16.4 พันล้านเยนในไตรมาสเดียวกัน กำไรเพิ่มขึ้นก็เพราะ PS4 อย่างเช่นเดิม แต่ทางด้านยอดขายเกมส์ PS3 นั้นเริ่มจะลดลง” ทำให้กำไรทั้งหมดของบริษัทในไตมาสนี้มีกำไรถึง 691 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากยอดขาย PS4 และบริการ PSN ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นเรื่องดีที่โซนี่กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ขาดทุนอย่างหนักมาหลายปี.
แหล่งข่าวจาก DualShockers