จบกันไปกับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของโซนี่โดยในไตรมาสนี้โซนี่ได้ทำการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพลย์สเตชั่นถึง 2 อย่างด้วยกันนั่นคือเครื่อง PS4 Slim และแว่น PS VR ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ วันนี้ครับทางโซนี่ประเทศญุี่ปุ่นคุณ Kenichiro Yoshida ประธานฝ่ายการตลาดได้เปิดเผยรายละเอียดผลประกอบการทางฝั่งธุรกิจเพลย์สเตชั่นว่าดังนี้ครับ
เริ่มด้วยคุณ Yoshida ได้พูดถึงยอดขายโดยรวมของ PlayStation VR รวมถึงเขาได้พูดถึงการวางจำหน่าย PS4 Pro ที่จะถึงนี้เขากล่าวว่า
ยอดขาย PlayStation VR ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ และในเดือนนี้เราได้เตรียมรับมือกับการวางจำหน่าย PS4 Pro ไว้แล้ว
เขายังให้ข้อมูลอีกว่า PS4 ขายได้ลดลง 100,000 เครื่องจากปีก่อน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้บริโภคกำลังรอที่จะซื้อ PS4 Pro อยู่ เขากล่าวว่า
เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาเครื่อง PS4 โมเดลใหม่ได้วางจำหน่าย (Slim) และในเดือนพฤศจิกายน PS4 Pro ก็จะวางจำหน่ายเช่นกัน ดังนั้นทำให้ผู้บริโภคไม่ซื้อ PS4 โมเดลเก่า โดยที่พวกเขารอที่จะซื้อ PS4 โมเดลใหม่มากกว่า ส่วนยอดขาย PS4 Slim และ PS4 Pro จะมีการมารวมในยอดขาย PS4 รวมของในปีนี้ด้วยเช่นกัน
สุดท้ายนี้ทางคุณ Yoshida ได้พูดถึงยอดขายของ PS VR เพิ่มเติมว่าดังนี้ เขากล่าวว่า
เราจะไม่พูดถึงตัวเลขว่าขายได้เท่าไร่ แต่เราบอกได้เลยว่าเรารู้สึกดีกับยอดขายที่เราได้มาก จากคอมพิวเตอร์กราฟฟิคสู่โลกที่เราเหมือนเข้าไปอยู่ในนั้น และถ้าเราสามารถขยายตลาดส่วนนี้ได้ มันมีโอกาสที่เราจะพัฒนาต่อเติมระบบอื่นๆ ให้ใช้งานรวมกับอุปกรณ์ตัวนี้ได้
และสำหรับ PS VR เท่าที่คุณรู้ว่าเราได้วางจำหน่ายไปตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเอเชีย…ทุกๆโซนที่เราวางจำหน่ายมียอดขายที่ดีทั้งนั้น และบางโซนถึงขั้นสินค้าไม่พอวางจำหน่าย ทำให้เรามั่นใจได้ว่า PS VR เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการตอบรับที่ดีมาก และสำหรับแผนการที่จะผลิต PS VR ให้มากขึ้นมีการอนุมัติให้เพิ่มการผลิตขี้นไปอีกสำหรับ เกมเมอร์ตัวยง….. แต่เราไม่ได้แค่จำกัดอยู่แค่นี้ แต่เราได้ขยายไปยังผู้บริโภคอื่นๆได้อีกด้วย หากเราร่วมมือกับนักพัฒนาในสายอื่นๆ แต่แน่นอนว่ามันยังเร็วไปที่จะบอกได้ว่าเราจะไปต่อเติมส่วนไหนต่อ
แหล่งข่าวจาก DualShockers