เกมส์ : Uncharted: The Lost Legacy
แพลตฟอร์ม : เกมส์เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ PS4
ราคา: 1,390 บาท
วันวางจำหน่าย: 22 สิงหาคม 2017
จากความสำเร็จของเกมส์ Uncharted 4: A Thief’s End เกมส์ได้ปิดฉากตำนานการผจญภัยล่าสมบัติของ Nathan Drake หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “เนต” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยยอดขาย 8.7 ล้านแผ่นทั่วโลก มันเป็นเครื่องยืนยันถึงความสนุกของเกมส์ จนเราต้องกลับมาเล่นใหม่มากกว่า 1 ครั้ง ด้วยภาพที่สวยงาม และการเล่าเรื่องสไตล์ Naughty Dogs ที่ไม่เหมือนใคร แฟนๆ จึงยกให้เป็นหนึ่งในซีรี่ย์เกมส์ที่ดีที่สุดของเพลย์สเตชั่น แม้การผจญภัยของ Nathan Drake จะจบลง ทางค่ายได้ทำการคิดเนื้อเรื่องเสริมที่ต้องเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ในซีรี่ย์เกมส์นี้ จาก DLC ธรรมดา จนกลายมาเป็นเกมส์ภาคแยกแบบ Stand Alone ภาคแรกของซีรี่ย์ ซึ่งการันตีความมันส์ไม่แพ้ภาคหลัก และครั้งนี้ทางค่ายได้นำเกมส์มาสู่อีกระดับ ด้วยการผจญภัยแบบแพ็คคู่ และเข้มข้นกว่าเดิม กับตามหาสมบัติ The Tusk of Ganesha ณ ประเทศอินเดีย และนี่คือรีวิวเกมส์ Uncharted: The Lost Legacy
เนื้อเรื่อง
Uncharted: The Lost Legacy เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน Uncharted: A Thief’s End ประมาณ 5 เดือน ซึ่งสำหรับใครที่ไม่เคยเล่นภาค 4 เลยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะเนื้อหาในภาคนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อเรื่องภาคหลักไม่แต่น้อยครับ ถึงจะอย่างนั้นทาง Naughty Dogs ได้เผยว่า ภาคเสริมนี้อยู่ในโลกเดียวกับ Uncharted: A Thief’s End อาจจะมีสปอยเล็กๆ แต่ไม่มากพอที่จะทำให้เรารู้เรื่องราวภาคก่อน ในภาคนี้เราจะร่วมผจญภัยไปกับหญิงสาว โคลอี้ จาก Uncharted 2 และเนดิน หญิงสาวจากภาค 4 เพื่อตามหาสมบัติอันล้ำค่าในประเทศอินเดีย ชือว่า The Tusk of Genesha และเช่นเคยครับไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ต้องการครบครองสมบัติ เราจะได้เผชิญหน้ากับผู้ร้ายชื่อ Asav นักนำเข้าสินค้า และขายของเพื่อหวังผลกำไรก้อนโต
สำรับความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวทั้งสองเป็นเหมือนกับว่าต่างคนต่างต้องการผลประโยชน์ของตัวเอง โดยจุดประสงค์ของเนดินเองที่มาตัดสินใจมาล่าสมบัติในครั้งนี้คือ เนดินต้องการเงินมาทำธุระกิจกับพี่ชายของ Drake แต่หลังจากเสียผลประโยชน์ให้กับหุ้นส่วนคนก่อน ก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้ และทำทุนใหม่ ดังนั้นจะแตกต่างกับ เกมส์ในซีรี่ย์ Uncharted ภาคอื่นๆ ที่ตัวละคร ที่ร่วมผจญภัยกับเราจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงในระดับหนึ่งครับ ก็ต้องมาลุ้นกันเองครับว่าทั้งโคลอี้ และ เนดิน สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร่ครับ จากที่ผมได้เล่นก็ยังรู้สึกว่า มันเป็นเกมส์ที่พัฒนาโดย Naughty Dogs อย่างแน่นอน ทั้งการดำเนินเรื่อง การพูดของตัวละครต่างๆ ทำออกมาได้ดีเช่นเคย และในครั้งนี้เป็นการผจญภัยของหญิงสาวล้วน ทำให้เราได้อีกอารมณ์ในการเดินทางในครั้งนี้ เราจะสามารถรู้สึกถึงแรงผลักดันของทั้ง โคลอี้ และเนดินได้เลย
เกมส์เพลย์
ถ้าใครที่ได้เล่น Uncharted 4: A Thief’s End หรือซีรี่ย์ Uncharted อื่นๆ จะบอกเป็นเสียงเดียวกันได้เลยว่าตัวเกมส์เพลย์ของภาค The Lost Legacy นี้เหมือนกันแทบจะ 100% เลยก็ว่าได้ ทั้งการวิ่ง, การกระโดด, ระบบการยิง และการแก้ไขปริศนาต่าง ๆ เหมือนกันกับเกมส์ในซีรี่ย์ Uncharted เลยครับ ในภาคนี้เราจะเล่นเป็นคอลอี้ เกมส์ความยาวประมาณ 6-9 ชั่วโมง แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นแต่ละคน บางคนชอบสำรวจก็อาจจะใช้เวลาเกิน 9 ชั่วโมงก็ได้ครับ เพราะในภาคนี้ทาง Naughty Dogs ได้เปิดแผนที่ให้เรามีจุดสำรวจมากขึ้น บางครั้งผมก็รู้สึกว่า พื้นที่กว้างกว่าใน Uncharted 4 เสียอีกครับ จนบางครั้งกระโดดไปตายเพราะนึกว่าพื้นที่่ส่วนที่จะกระโดดไปสามารถไปได้… กรรมแท้
แม้ว่าเกมส์จะมีรูปแบบเหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ ฟีเจอร์ถ่ายรูป Selfie ตามสถานที่สำคัญต่างๆ โดยเมื่อเราถึงจุดที่สามารถถ่ายรูปได้ จะมีไอคอนขึ้นมาให้เราสามารถถ่าย Selfie จากโทรศัพท์มือถือ Xperia ในเกมส์ได้ พร้อมทั้งเรายังสามารถหยิบมือถือขึ้นมาดูรูปเก่าๆ ที่เราเคยถ่ายไว้ตลอดการเดินทางได้
ในบางสถานณ์การ เวลาเราจะเปิดประตู ถ้าประตูล็อกระบบจะมีฟีเจอร์สะเดาะกุญแจ โดยปุ่ม R3 บน DualShock 4 หมุนให้ตรงจุดที่จอยสั่น และค้างไว้ ทำแบบนี้ 3 ครั้งก็จะสามารถสะเดาะกุญแจได้ ความมันส์มันอยู่ตรงที่ เวลามีศัตรูเข้ามาใกล้ๆ ตอนสะเดากุญแจ มันลุ้นมากจริงๆ ครับ
สิ่งที่ทำให้ Uncharted: The Lost Legacy สนุกคือท่าต่อสู้ คอมโบระหว่างโคลอี้ และเนดิน เมื่อเราโดนล็อกเราสามารถกดคอมโบเรียกเนดินมาช่วยได้ครับ สำหรับตรงนี้การความแปลกใหม่ ที่ผสมผสานออกมาได้เป็นอย่างดี
กราฟฟิค
เป็นเกมส์ที่ภาพสวยที่สุดเลยกว่าได้ครับ ทั้งแสง ทั้งเงา สีสัน และองค์ประกอบต่างๆในฉากทำออกมาไร้ที่ติตามฉบับของค่าย Naughty Dogs ที่เก็บทุกรายละเอียด และจะไม่ยอมวางจำหน่ายเกมส์แบบชุ่ยๆ อย่างแน่นอน โดยตัวเกมส์ได้พาเราตั้งแต่ตลาดของอินเดีย, ตึกร้าง, ซอกซอยต่างๆ และรวมถึงพื้นที่สีเขียวขจี ของเทือกเขาป่าไม้ของอืนเดีย ที่ทำออกมาได้สวย และประทบใจมากๆ
ด้วย PS4 Pro เกมส์สามารถแสดงผลภาพออกมาได้ถึงความละเอียด 1440p ที่เฟรมเรต 30 Fps และด้วยระบบ HDR บนทั้ง PS4 รุ่นปกติและ PS4 Pro ทำให้เราสามารถเห็นแสงและเงาอย่างสวยงาม สมจริงมากๆ โดยเฉพาะฉากยามเย็น ท้องฟ้าเป็นสีส้มชมพู ราวกับภาพวาดเลยครับ
ระบบเสียง
ถ้าเล่นเกมส์บน Home Theater เสียงจะกระหึ่มมาก เสียงมีความละเอียดไม่แพ้ภาพของเกมส์เลย อาทิเช่น ฉากแรกๆ ที่เราเดินไปตามซอกซอย ก็จะได้ยินเสียงชาวบ้านที่อยู่ในบ้านด้วย พอมาถึงฉากป่าไม้ เราก็จะได้ยินเสียงธรรมชาติ เสียงป่าไม้ บวกกับกราฟฟิคที่สวยงาม รู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเกมส์จริงๆ ครับ นอกจากเสียงประกอบเหล่านี้แล้วพอถึงฉากการต่อสู้ก็ได้ยินเสียงปืน, ระเบิด และเพลงประกอบสุดมันส์ เวลาเล่นจึงได้หลากหลายอารมณ์ รวมอยู่ในเกมส์นี้
Verdict
แม้ว่าการผจญภัยของ Nathan Drake จะจบลงไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยเกมส์ Uncharted: The Lost Legacy ก็สามารถทำให้แฟนๆ ซีรี่ย์เกมส์นี้หายคิดถึง ต้องขอชมทางค่าย Naughty Dogs มากๆครับที่สามารถถ่ายทอด อารมณ์, เกมส์เพลย์สุดมันส์ และภาพกราฟฟิกสวยที่สุด แบบนี้ไม้แพ้เกมส์ Uncharted 4 : A Thief’s End เลยครับ และด้วยความสำเร็จของ Uncharted: The Lost Legacy เราก็อาจจะได้เห็น ภาคเสริมแบบนี้ กับเรื่องราวใหม่ๆ ของตัวละครอื่นๆ ในซีรี่ย์เกมส์ Uncharted ในอนาคตก็เป็นได้ครับ Uncharted: The Lost Legacy ก็เป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่ผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนที่เคยเล่นเกมส์ซีรี่ย์ นี้ หรือไม่เคยเล่นได้ลองสัมผัส คุณภาพเกมส์ดีๆ แบบนี้ ในราคาที่สามารถจับต้องได้
8.8/10
จุดเด่น (Pro)
- กราฟฟิคสุดอาลังการ
- เกมเพลย์ตามสไตล์ Uncharted พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ
- สมราคากับเกมส์คุณภาพแบบนี้
- โหมดออนไลน์แบบ Stand Alone
จุดสังเกต (Con)
- ความยาวของเกมส์ค่อนข้างสั้นกว่าปกติ
- งง กับพื้นที่ๆ ไม่สามารถเข้าถึงได้ อาจจะกระโดดไปตายได้
- ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่ในตัวเกมส์เท่าไร่
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณ PlayStation Asia และ บริษัท PC& Associate Consulting จำกัด
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ