หลายคนต่างแปลกใจมาก ๆ ที่โซนี่หนึ่งในผู้ผลิตพัฒนาเครื่องเกมรายใหญ่ไม่เข้าร่วมงาน E3 ในปีนี้ ถือด้ว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่งาน E3 จัดครั้งแรกในปี 1995 ก็ว่าได้ พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่จัดงานแถลงข่าวเท่านั้น เขาไม่ได้จัดพื้นที่แสดงเกมเช่นกัน พูดง่าย ๆ ไม่เข้าร่วมจริง ๆ มันเกิดเป็นประเด็นร้อนแรงจากการตัดสินใจของพวกเขา แท้จริงแล้วเพราะเหตุใดทางบริษัทถึงตัดสินใจเช่นนี้ วันนี้คุณ Shawn Layden ซีอีโอเพลย์สเตชั่นประจำอเมริกาเหนือ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว CNET พร้อมเผยเหตุผลเกี่ยวกับวิธีการนำเสนอเพื่อส่งข้อมูลไปยังลูกค้า หรือเหล่าเกมเมอร์มันเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นจึงทให้ E3 ไม่ได้โดดเด่นอีกต่อไป Layden กล่าวว่า
โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ E3 ยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และด้วยการตัดสินใจของเราที่จะทำเกมให้น้อยลง – แต่โฟกัสกับเกมที่ใหญ่กว่า – ในช่วงระยะเยาวนาน เราได้มาถึงจุดที่มิถุนายน 2019 ไม่ใช่เวลาของเราที่จะออกมาพูดถึงสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้แล้ว และเรารู้สึกว่าถ้าเราจัดมันขึ้นมา แล้วผู้คนมาปรากฏตัวที่นี่ผู้คนก็ย่อมมีความคาดหวังกับสิ่งที่เขาจะได้เห็นว่า ‘โอ้โซนี่จะมีอะไรมาโชว์เราบ้างนะ’
Layden กล่าวต่อว่า
เรากำลังพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับ วิธีการที่เราจะเปลี่ยนแปลง E3 ให้มีความสนใจมากขึ้นได้อย่างไร E3 จะเปลี่ยนเป็นเทศกาลเกมสำหรับทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องประกาศเปิดตัวเกมใหม่ ๆ ได้หรือไม่? มันไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองเปิดโอกาสให้ได้ทดลองเกมเท่านั้น แต่ยังมีพาเนลที่เรานำนักพัฒนาเกมเข้ามาเพื่อใกล้ชิดกับแฟน ๆ มากขึ้นด้วย
พูดกันภาษาชาวบ้านเลยครับว่าปีนี้โซนี่คงไม่มีอะไรมาโชว์จริง ๆ แหละแล้วถ้าเกิดพวกเขาเข้าร่วมงาน E3 แฟน ๆ อย่างเราต้องคาดหวังจะได้เห็นเกมเพลย์ใหม่ ๆ หรือเปิดตัวเกมใหม่ ๆ อยู่แล้ว และถ้าโซนี่ไม่สามารถนำเสนอสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ มันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าเขามุ่งเน้นไปในการจัดงานรูปแบบแฟนอีเว้นท์เหมือน PlayStation Experience มากกว่าเพราะพวกเขาสามารถเข้าถึงแฟน ๆ ผู้ที่เป็นคนซื้อเกมจริง ๆ ก็ต้องมาดูกันครับว่าโซนี่จะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาในปีนี้
ข้อมูล และแหล่งข่าวโดย GamingBolt