เกม : Anthem
แพลตฟอร์ม : PlayStation 4 , Xbox One และ PC
ราคา: 1,890 บาท
วันวางจำหน่าย: 22 กุมภาพันธ์ 2019
Anthem เรียกได้ว่าเป็นเกมที่หลายคนจับตามองกับเกมแนวแอคชั่นอาร์พีจีสไตล์ Open-World ผลงานจากผู้พัฒนาเกม Mass Effect และ Dragon Age อย่าง Bioware ในครั้งนี้พวกเขาต้องการเรียกความเชื่อมั่นจากเกมเมอร์กลับมา ด้วยเกมแนวยิงไซไฟไปในโลกอิสระในแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ผู้เล่นจะสามารถร่วมทำภารกิจไปกับเพื่อน ๆ ได้ตลอดทั้งเกม เราในฐานะทหารรับจ้างสวมใส่ชุดเกราะเหล็กที่ชื่อ Javelin ไปยังโลกที่ถูกทอดทิ้งเพื่อต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดให้จงได้ นี่คือรีวิว Anthem ไม่ขี้เหร่อย่างที่ทุกคนคิด (ในระยะยาวนะ)
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง และตัวระบบเกมบางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
Anthem เล่าถึงดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง [ไม่ได้บอกว่าเป็นดาวโลกหรือไม่] มนุษย์เชื่อว่าโลกใบนี้ถูกสร้างขึ้นโดย “Shaper” เหล่าเทพเจ้าเมื่อหลายพันปีก่อน แต่ทว่าเหล่าเทพเจ้านี้กับทิ้งและไปจากโลกนี้ไปแบบไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นโลกถูกปล่อยทิ้งล่มสลายไปตามกาลเวลา เต็มไปด้วยซากอารายธรรมเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันดุร้าย รวมไปถึงสภาพอากาศแปรปรวนไม่สามารถคาดการณ์ได้ มนุษย์ที่หลงเหลืออยู่จำเป็นต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสภาวะแบบเช่นนี้ให้จงได้ ทำให้พวกเขาได้สร้างเมือง “Fort Tarsis” ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นชุมชน นอกจากนี้พวกเขายังได้แต่งตั้งกองกำลังทหารรับจ้าง หรือพวกเขาเรียกว่า “Freelance” และได้ประดิษฐ์ชุดเกราะเรียกว่า “Javelins” ชุดเกราะที่มีลักษณะอันโดดเด่นมีทั้งหมด 4 ประเภทเพื่อต่อกรกับมอนสเตอร์อันดุร้าย
เหล่า “Freelance” ไม่ได้เพียงปกป้องมนุษย์จากภัยอัตรายเพียงอย่างเดียว เพราะในโลกอันล่มลายนี้มีขุมพลังลึกลับซ่อนอยู่เรียกกันว่า “The Anthem of Creation” มันเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง พวก Shapers ใช้มันเพื่อสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา พลังอันมหาศาลของมันยากที่จะควบคุมได้ หากผู้ถือครองนำใช้ไปในทางที่ผิดแล้ว มันสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้หมดสิ้นไปได้ กองกำลังปริศนาชื่อ The Dominion พยายามจะครอบครองขุมพลังนี้ ดังนั้นเหล่า “Freelance” ต้องหยุดยับยั้งไม่ให้พวกมันหาขุมพลังนี้เจอก่อนและนำไม่ใช้ในทางชั่วร้าย
เนื้อเรื่องของเกมปูออกมาได้อ่อนเกินไปและไม่สมเหตุสมผล ซึ่งมันค่อนข้างน่าผิดหวังและตรงข้ามกับโลกจักรกวาลที่ได้เห็นเพราะผู้เขียนเชื่อว่า BioWare สามารถนำองค์ประกอบต่าง ๆ ในเกมมาเล่าเรื่องราวให้เข้มข้นมากกว่านี้ได้ เหมือนเกมจะมุ่งเน้นไปในการทำภารกิจเป็นหลัก ส่วนเรื่องราวต่าง ๆ จะมาจากการพูดคุยกับตัวละคร NPC ภายในเมือง Fort Tarsis มันน่าเบื่อและไม่ดึงดูดผู้เล่นที่ชอบเสพเรื่องราวในเกม แม้ว่าเกมจะนำเสนอการโต้ตอบกับ NPC ซึ่งมีผลต่อเนื้อเรื่องก็ตาม มันไม่ได้ส่งผลต่อภารกิจหรือเกมเพลย์ของผู้เล่นเลย เรียกได้ว่าเนื้อเรื่องอ่อนกว่าเกมก่อน ๆ ของ BioWare ด้วยซ้ำ
มิหนำซ้ำด้วยเนื้อเรื่องที่อ่อนแอ ผู้เล่นก็อยากโฟกัสไปการเล่นภารกิจเอามันส์ดีกว่า แต่ทว่าเพราะเนื้อเรื่องนี่เองทำให้เมื่อผู้เล่นเคลียร์ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เล่นจำเป็นต้องกลับมาฐานในเมือง Fort Tarsis เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อซึ่งมันเสียจังหวะ หากใครชอบเสพ เนื้อเรื่องผู้เขียนต้องเรียนตามตรงมาไม่แนะนำเกมนี้ครับ
เกมเพลย์
ต้องยอมรับว่าระบบเกมเพลย์ของ Anthem ทำออกมาได้ดีกว่าเนื้อเรื่องมาก ๆ เกมเป็นเกมมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยระบบการต่อสู้ที่ไม่เหมือนเกมอื่น ๆ ด้วยชุดเกราะ Javelins ผู้เล่นสามารถบินบนท้องฟ้าเพื่อไปตามจุดของภารกิจ หรือจะเล่นแบบ Freeplay ได้อย่างอิสระ ชุดเกราะ Javelins แบ่งออกทั้งหมด 4 ประเภทได้แก่ Ranger (ทหาร), Storm (เวทย์), Interceptor (นักฆ่า), และ Colossus (แทงค์) แต่ละสายก็จะมีวิธีการเล่นและความสามารถแตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าผู้เล่นจะไม่ถูกจำกัดและบังคับให้เลือกชุดเกราะใดชุดเกราะหนึ่ง
เมื่อผู้เล่นปลดล็อคเลเวลสูงขึ้น ก็จะสามารถปลดล็อคชุดเกราะประเภทอื่น ๆ จนครบทั้ง 4 ประเภทได้ ดังนั้นแล้วเกมนำเสนอสไตล์การเล่นอันหลากหลายและมีมิติให้ผู้เล่นได้เลือกเล่น ในช่วงแรกไปจนช่วงกลางของเกมจะเป็นเวลาให้ผู้เล่นได้ค้นหาตัวเองว่าชุดเกราะไหนเหมาะสมกับตัวเอง เพื่อมาใช้เป็นชุดเกราะหลักในการอัพเกรด องค์ประกอบและประเภทชุดเกราะนี้เองเป็นหัวใจหลักในการสร้างระบบการต่อสู้และสกิลหลากหลายแบบออกมา ชุดเกราะ Javelins ยังสามารถปรับออฟชั่นตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ด้วยอาทิเช่น Ranger สามารถปรับสกิลทำตัวเป็นกองกำลังแนวหน้าคอยเพิ่มเลือดให้ผู้ร่วมภารกิจคนอื่น ๆ ได้ เลเวลสูงสุดคือเลเวล 30 ผู้เขียนชื่อว่าอนาคตจะมีเลเวลสูงกว่านี้เพิ่มเข้ามา
การท่องไปยังโลกของ Anthem ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นในแบบรับภารกิจ หรือแบบ Freeplay ก็ได้เมื่อเลือกแล้ว ผู้เล่นจะสามารถท่องไปยังโลกที่ล่มสลายแห่งนี้ได้ ด้วยชุดเกราะ Javelins ผู้เล่นจะสามารถบินไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ ซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่คือผู้เล่นไม่สามารถจะบินเป็นเวลลานานได้ เพราะชุดเกราะจะร้อน แล้วเมื่อชุดเกราะร้อนเกินไป ระบบการขับเคลื่อนชุดเกราะจะหยุดทำงาน และตัวเราจะตกลงพื้นทันที นอกจากนี้แม้ว่าเกมจะเป็น Open World แต่แผนที่กก็ไม่ได้ใหญ่และมีข้อจำกัดคือ ยอดเขาบางที่จะไม่สามารถบินผ่านไปได้ เกมบังคับให้ผู้เล่นต้องบินอ้อมซึ่งอันที่จริงมันไม่ได้สูงขนาดนั้นเลย
ภารกิจและเนื้อหาของเกมน้อยเกินไปอย่างดันเจี้ยนมีแค่ 3 ที่เท่านั้น ประกอบกับภารกิจคล้าย ๆ กันแล้วผู้เล่นจำเป็นต้องเล่นภารกิจซ้ำไปซ้ำมาเพื่อฟาร์มเก็บของหากโชคดีก็จะเจอหีบสมบัติ ในส่วนนี้ก็ต้องดูแผนระยะยาวของ BioWare ที่เห็นว่าจะมีเนื้อเรื่องเสริมเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ อีกด้านในโหมด Freeplay ก็เงียบมากกว่าจะเจอภารกิจนึงก็ใช้เวลาสำรวจหลายรอบเลย อีกประเด็นสำคัญคือบางภารกิจหรือเหตุการณ์ในเกมไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการเล่นแบบลุยเดี่ยวจริง ๆ เกมเหมือนจะมุ่งเน้นให้เล่นกับเพื่อน ๆ หรือเป็นกลุ่ม ๆ มากกว่า ผู้เขียนต้องเรียนตามตรงว่าเล่นกับเพื่อนสนุกมาก สามารถพูดคุยป่านไมค์ได้ตลอดเวลา, วางแผนกำจัดศัตรู เข้าหากันมันส์ไม่แพ้เกมอื่น ๆ แต่การเล่นเเกาะเป็นกลุ่มแบบนี้ก็มีข้อเสียคือต้องมาคอยรอกัน บางคนเปลี่ยนสกิลเปลี่ยนของกัน บางทีไม่ทันใจดังนั้น บางครั้งก็รู้สึกว่าเล่นแบบ Matchmaking ให้ระบบสุ่มผู้เล่นให้ก็ดีไปอีกแบบ แต่ถ้าจะเล่นแบบลุยเดี่ยว Solo เลยเกมจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ อีกอย่างเกมบังคับให้ออนไลน์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นต้องใช้ PlayStation Plus ในการออนไลน์ด้วยนะจ๊ะ
ปืนไม่ค่อยมีความหลากหลาย และไม่น่าตื่นเต้น ไอเท็มน้อยไม่หลากหลาย หากเล่นจนถึงเลเวลสูง ๆ แล้วแทบจะมีไอเท็มครบทุกอย่างแล้ว ส่วนนี้คงต้องเล่นกันไปยาว ๆ เพราะเนื้อหาของเกมจะค่อยๆ ทยอยปล่อยออกมา สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นลดลงคือหน้าโหลดเกมไม่ว่าจะทำอะไรเกมก็โหลดอีกแล้ว อีกอย่างเมื่อไอเท็มดรอประหว่างทำภารกิจผู้เล่นจะไม่สามารถทราบได้ว่ามันคือไอเท็มอะไร แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเท่าไหร่เมื่อผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนอาวุธหรือเปลี่ยนความสามารถอะไรได้เลยจนกว่าจะกลับไปยังเมือ Fort Tarsis เพื่อดูว่าผู้เล่นได้รับไอเท็มอะไรมา รวมถึงดูความสามารถและคอมโบชุดใหม่ ระหว่างอยู่ในเมืองก็หงุดหงิดอีกเพราะตัวละครเคลื่อนไหวได้ช้ามาก เวลาจะเปลี่ยนสกิลหรือเข้าเมนูอะไรก็ถูกขั้นด้วยหน้าโหลดสลับไปสลับมาอย่างนี้เบื่อมาก ๆ
ไม่พูดไม่ได้คือเกมมีบัคเยอพอดู ไม่นับว่าเกมประสบปัญหาในการเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์ยากและกระตุกนะ ผู้เขียนได้พบว่าระบบฟังชั่นบางอย่างของเกมทำให้เกมพังจนถึงขั้นระบบปฏิบัติการของเครื่อง PS4 ปิดเกมออกมาตรงเมนูหลักทันที บางครั้งใช้สกิลไม่ได้ และไม่สามารถถอดปืนออกได้ส่วนนี้คงต้องรอทาง BioWare ออกอัพเดทออกมาแก้บัคทั้งหลายเหล่านี้ให้หมดไป
กราฟฟิก
กราฟิกของเกม Anthem สวยมากทั้งแสง บรรยายการใบไม้ต้นไม้ ไปจนถึงน้ำตกล้วนพัฒนาออกมาได้อย่างสวยงามมีสีสันสดใสสวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อเวลาเราบินสำรวจอยู่จะสังเกตได้เลยว่า ทุก ๆ อย่างดูใสใจทุกรายละเอียด แต่ทว่าหากนำกราฟิกในเกมเวอร์ชั่นจริงไปเทียบกับตัวอย่างเกมเมื่องาน E3 ที่ผ่านมา จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากราฟิกถูกดาวน์เกรดลงมา รวมถึงสิ่งที่ทาง BioWare ยังไม่สามารถก้าวข้ามได้คือสีหน้าอารมณ์ของตัวละครในเกม ยังทำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถามว่าดีกว่า Mass Effect เกมก่อนหรือไม่ ดีขึ้นครับ แต่ก็มีบางจังหวะรู้สึกว่าเสียพากย์กับสีหน้าตัวละครยังไม่ไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ดีที่ไม่ดูเอ๋อมันยังดูมีชีวิตชีวาไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่
Javelin พัฒนาออกมาได้อย่างละเอียดสวยดูเท่และออกแบบการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถปรับแต่งได้หลากหลายตั้งแต่พื้นผิวของชุดเกราะ ไปจนถึงเปลี่ยนสีชุดเกราะให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบของคุณ อย่างที่เรียนไป เมื่อเราบินสำรวจอยู่ในโลกของเกมแล้ว สิ่งแวดล้อมดูสวยงามมาก ๆ บางครั้งพักจากภารกิจมาบนเล่นชื่นชมกราฟิกก็รู้สึกได้อารมณ์อีกแบบ
Verdict
แม้ว่า Anthem มีข้อเสียหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะเนื้อเรื่องของเกมที่ปูเรื่องออกมาไม่ค่อยดีและไม่น่าติดตามเอาซะเลย แต่ด้วยเมเพลย์สุดมันส์โดยเฉพาะเล่นไปกับกลุ่มเพื่อน ๆ ต้องยอมรับว่ามันสนุกมาก ๆ แม้ว่าภารกิจและไอเท็มจะน้อยนิด บวกกับทั้งการโหลดเกมกับปัญหาทางด้านเทคนิค แต่ทว่าหากดูแผนการที่ทางค่าย BioWare ได้วางเอาไว้เราสามารถมั่นใจในระยะยาวได้ว่าจะเป็นเกมที่ดีไม่น้อยหน้าเกมอื่นอย่างแน่นอน คงต้องให้เวลากับทางทีมพัฒนาได้ปรับปรุง ใส่คอนเทนท์เข้ามาเรื่อย ๆ เพื่อให้พิสูจน์ว่าเกมไม่ได้แย่กว่าที่คิด แล้วในอนาคตมันต้องดีขึ้นกว่านนี้แน่นอนครับ อย่างไรก็ตามหากใครชอบเล่นเกมแบบเสพเนื้อเรื่องผู้เขียนต้องเรียนว่า Anthem คงไม่เหมาะกับคุณ อีกด้สนหากว่าชอบเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อน ๆ ตะลุยวางแผนไปด้วยกัน เล่นกันระยะยาว ๆ เกม Anthem เหมาะสมมาก ๆ เพราะเกมสามารถนำเสนอระบบเกมเพลย์ที่ไม่เหมือนใคร
6.5/10
จุดเด่น (Pro)
- กราฟิกสวยงามตระการตาเมื่อบินสำรวจไปรอบ ๆ
- ระบบการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ มีสกิลลูกเล่นหลากหลายมิติ
- เหมาะสมมาก ๆ ในการเล่นกันเป็นกลุ่ม
จุดสังเกต (Con)
- เนื้อเรื่องอ่อนและไม่ชวนน่าติดตาม
- โหลดทุก ๆ ครั้งที่เข้าเมนูจนเกิดความรำคาญ
- ตัวระบบไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการเล่นเดี่ยว
- ภารกิจอันน้อยนิดซ้ำซาก
- ต้องถูกบินลงพื้นอยู่บ่อยครั้งเพราะชุดเกราะร้อน
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณ Electronic Arts Australia
สำหรับแผ่นเกมให้เรามารีวีวครับ