ปี 2020 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าตื่นเต้นของวงการเกมคอนโซลด้วยการมาถึงของเครื่อง Xbox’s Scarlett และเครื่อง PS5 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะวางจำหน่ายในปลายปีหน้าทำเอาเหล่าเกมเมอร์ต่างตื่นเต้นและรอไม่ไหวเพื่อจะได้สัมผัสกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ แน่นอนว่าเครื่องเกมคอนโซลทั้งสองจะอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำ SSD มาใช้, ซีพียูแรงขึ้น, รองรับความละเอียดสูงสุด 8K และเทคโนโลยี Ray Tracing สิ่งเหล่านี้ทำเอานักพัฒนาตื่นเต้นไม่แพักับเกมเมอร์เพราะมันจะอนุญาตให้พวกเขาสามารถสร้างเกมในจินตนาการของพวกเขาแบบที่ไม่สามารถสร้างได้บนฮาร์ดแวร์รุ่นปัจจุบัน
วันนี้ทางเว็บไซต์ DualShockers ได้ให้สัมภาษณ์คุณ David Cage ผู้กำกับและเขียนบทเกม Heavy Rain, Beyond: Two Soul และ Detroit: Become Human จากค่ายพัฒนาเกม Quantic Dream ได้พูดถึงฟีเจอร์อันโดดเด่นของเครื่องเกมเจนเนอร์เรชั่นต่อไป พร้อมในขณะเดียวกันเขาได้เผยจุดอ่อนของเครื่องเกมคอนโซลยุคต่อไปด้วยเช่นกัน โดยเขามีประเด็นเกี่ยวกับข้อจำกัดของฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทั้งสองผลิตเครื่องคอนโซลได้สัญญาเอาไว้ รวมถึงด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้อาจจะทำให้ต้นทุนในการพัฒนาเกมสูงขึ้นอีกด้วยคุณ Cage กล่าวว่า
การปรับปรุงที่สำคัญของกำลังประมวลผลซีพียูจะหมายถึงการปรับปรุงที่ก้าวกระโดดในด้านฟิสิกส์และ AI อีกด้านหนึ่งด้วยจีพียูที่ได้รับการปรับปรุงใหม่น่าจะเพียงพอที่จะรับเทคโนโลยี Ray Tracing ในความละเอียด Full HD (1080p) หรือความละเอียด 4K (โดยที่ไม่เปิดใช้งาน Ray Tracing)…โดยรวมแล้วเราเชื่อว่าจะได้เห็นเกมยุคต่อไปที่ดีและเจ๋งมากขึ้น แต่อาจไม่ใช่เกมที่กำลังถูกโปรโมทในปัจจุบัน
แต่สองประเด็นสำคัญที่คุณ Cage คิดว่าเป็นจุดอ่อนของเครื่องเกมคอนโซลยุคต่อไปมีดังนี้ครับ เขากล่าวว่า
การปรับปรุงอันกล้าวกระโดดของฮาร์ดแวร์จะสมเหตุสมผลได้ก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันตรงตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่อาจจะคิดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถเสพเนื้อหาความละเอียด 8K ได้ต่อเมื่อคุณมีหน้าจอที่รองรับความละเอียด 8K เท่านั้น, คุณสามารถพัฒนาเกมให้ออกมาความละเอียด 8K ได้แต่อาจไม่ใช่ความละเอียด 8K ที่มาพร้อมกับ Ray Tracing อย่างแน่นอน หากคุณมีเนื้อหา 8K ปริมาณของทรัพยากรของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในส่วนของหน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่บนฮาร์ดไดรฟ์ของคุณด้วย คุณจะต้องโหลดข้อมูลอย่างรวดเร็วจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของคุณไปยังหน่วยความจำดังนั้นท่อรับส่งข้อมูลจะต้องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย
ในขณะที่หากมองตามทฤษฎีแล้วความละเอียด 8K ดูเหมือนเทคโนโลยีในอนาคตที่น่าสนใจ แต่หลังจากค่าย Quantic Dream ได้เริ่มวิเคราะห์เครื่อง PS5 และ Xbox Scarlett เพื่อดูว่ามันจะมีทรัพยากรและจะดึงประสิทธิภาพของเครื่องออกมาเต็มที่อย่างไร? ทางค่ายกลับผมปัญหาหลายข้อคุณ Cage กล่าวว่า
การวิเคราะห์ของเราเผยว่าสตูดิโอเพียงไม่กี่แห่งจะพัฒนาเกมออกมาในความละเอียด 8K เพราะมันจะทำให้คุณภาพของเกมโดยรวมลดลง นอกจากนี้เทคโนโลยี Ray Tracing จะมีค่าใช้จ่ายสูงจนเราอาจจะเห็นเพียงเกมในความละเอียด Full HD เท่านั้นที่ใช้เทคโนโลยีนี้อย่างน้อยก็ในเกมที่วางจำกน่ายแรก ๆ ก็จะเป็นไปในรูปแบบนี้ พลังที่มากขึ้นหมายถึงมีเครื่องมือให้ได้ลองเล่นมากขึ้น แต่มันก็จะมีวงจรการพัฒนาที่ซับซ้อนและยาวนานกว่าและแน่นอนว่างบประมาณก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
คุณ Cage ยังเผยว่าค่ายพัฒนาเกมระดับกลางจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณในการพัฒนาเกมลง PS5 และ Xbox Scarlett เนื่องจากงบประมาณการพัฒนาที่สูงขึ้น เขากล่าวต่อว่า
มันอาจจะมีที่ว่างสำหรับแฟรนไชส์ขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะพัฒนาเกมออกมาให้มีคุณภาพสูงตามความต้องการเพราะพวกเขาจะสามารถกู้คืนงบประมาณมหาศาลมาพัฒนาเกมได้
แม้ว่าคุณ Cage จะพูดถึงจุดอ่อนของเครื่องคอนโซลยุคต่อไปหลายข้อ แต่สุดท้ายแล้วเขาได้ฝากไว้ว่าด้วยเครื่องเกมเจนเนอร์เรชั่นยุคต่อไปจะอนุญาตให้นักพัฒนาสามารพัฒนาเกมยอดเยี่ยมและเปิดโลกทัศน์ให้กับเกมใหม่ ๆ คุณ Cage กล่าวทิ้งท้ายว่า
โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าเทคโนโลยีเป็นปากกาในการเขียนหนังสือ มันสามารถอำนวยความสะดวกในการเขียนสร้างหนังสือดี ๆ ได้ แต่ปากกาจะไม่ทำให้หนังสือของคุณยอดเยี่ยมด้วยตัวมันเอง เนื้อหาจะเป็นกุญแจสำคัญในอนาคตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังจะมาถึงจะต้องมีเนื้อหาพิเศษคุณภาพสูงเพื่อดึงดูดผู้บริโภคซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักพัฒนาและเกมเมอร์ ความหวังของผมคือเราจะได้เห็นเกมที่สร้างสรรค์ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมของเราก้าวไปข้างหน้า
ข้อมูล และแหล่งข่าวโดย DualShockers