เกม : The Last of Us Part II
แพลตฟอร์ม: เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ PS4
ราคา: 1,890 บาท (รองรับภาษาไทย)
วันวางจำหน่าย: 19 มิถุนายน 2020
สิ้นสุดการรอคอยของภาคต่อเกมเอ็กซ์คลูซีฟฟอร์มยักษ์ที่เรารอคอยมากกว่า 7 ปีกับเกม The Last of Us Part II เกมสยองขวัญแนวเอาชีวิตรอดผลงานพัฒนาของค่าย Naughty Dog จากความสำเร็จของเกมภาคแรกซึ่งกวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนกับเรื่องราวการผจญภัยของโจเอล (Joel) และหญิงสาวเอลลี่ (Ellie) ในโลกอันล่มสลาย ในพาร์ทที่สองนี้ผู้เล่นได้สัมผัสเรื่องราวลึกซึ้งเข้มข้นกว่าเดิมและจะผลักดันอารมณ์ผู้เล่นถึงขีดสุด รวมไปถึงมาพร้อมกับระบบเมคคานิคใหม่ เพียบ ทั้งหมดนี้ได้นำเสนออกมาผ่านกราฟิกอันสวยงามและที่ขาดไม่ได้เลยคือเกมรองรับเมนูและซับไทเทิลภาษาไทยด้วย อย่าเสียเวลาอยู่เลยเรียนเชิญอ่านรีวิว The Last of Us Part II – ผลงานเกมระดับมาสเตอร์พีซ
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง และตัวระบบเกมบางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เรื่องราวของ The Last of Us Part II เรียกได้ว่าเริ่มต้นต่อจากภาคแรกเลยก็ว่าได้ ในช่วงเริ่มเกมจะมีการรื้อฟื้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคแรกขึ้นมาบิ้วอารมณ์ผู้เล่นเล็กน้อย และถือเป็นการปูเนื้อเรื่องให้ผู้ที่อาจจะไม่ได้สัมผัสภาคแรกให้เข้าใจด้วย แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนแนะนำให้ใครที่ยังไม่เล่นภาคแรกกลับไปเล่นภาคแรกเสียก่อนครับเพราะเนื้อหาภาคสองอิงจากเรื่องราวในภาคแรกโดยตรง หากทราบเหตุการณ์เรื่องราวภาคแรกได้เป็นอย่างดีรับรองว่าจะอินถึงอารมณ์สุด ๆ ในเกมภาคสองนี้หลังจากเอลลี่ (Ellie)(นำแสดงโดย Ashley Johnson) และโจเอล (Joel) (นำแสดงโดย Troy Braker) ก็ได้ลงหลักปักฐานที่เมืองแจ็คสัน รัฐไวโอมิง การอยู่รวมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ในชุมชนที่กำลังขยายตัวทำให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขและมั่นคง แม้จะต้องเผชิญการคุกคามจากพวกติดเชื้อหรือผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่นเป็นระยะก็ตาม ในช่วงแรกทั้งสองคนสามารถปรับตัวกับชุมชนได้ดีและทั้งสองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มลาดตระเวนคอยกำจัดพวกติดเชื้อรวมถึงหาเสบียงพื้นที่รอบ ๆ ทุกอย่างเป็นไปได้ดีพวกเขาอยู่อย่างมีความสุข
จนกระทั้ง 5 ปีต่อมาเอลลี่ก็ก้าวสู่ชีวิตวัยรุ่นด้วยวัยอายุ 19 ปีและโจเอลเองก็เริ่มแก่ตัวลง โจเอลก็ได้ออกไปลาดตระเวนคู่กับทอมมี่ (Tommy) ตามปกติ ส่วนเอลลี่เองในเวลานั้นได้ออกลาดตระเวนไปกับดีน่า (Dina) (นำแสดงโดย Shannon Woodward) และเจสซี่ (Jesse) (นำแสดงโดย Stephen A. Chang) ทว่าเกิดเรื่องอันไม่คาดฝันขึ้น เมื่อความรุนแรงครั้งหนึ่งทำลายความสงบสุขนั้นลง เอลลี่จึงออกเดินทางโดยไม่หยุดยั้งเพื่อทวงคืนความความยุติธรรมและยุติความแค้นของเธอ เธอตามล่าพวกคนร้ายทีละคน ทีละคน จนได้เผชิญกับผลจากการล่าล้างผลาญทั้งทางกายและทางใจจากการกระทำของเธอซึ่งมันจะผลักดันอารมณ์ผู้เล่นถึงขีดสุด
สำหรับใครที่เคยสัมผัสเกมผลงานของ Naughty Dog ก็คงพอจะทราบกันดีว่าทางค่ายมีความโดดเด่นในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาไม่ว่าจะเป็นเกม Uncharted หรือ The Last of Us ภาคแรกล้วนแล้วเอาชนะใจผู้เล่นทั้งสิ้น แต่เมื่อได้สัมผัส The Last of Us Part II ผู้เขียนคิดว่าการเล่าเรื่องหรือการถ่ายทอดเรื่องราวของ Naughty Dog ได้นำไปสู่มาตรฐานใหม่ในการสร้างเกมเรียบร้อย และในการสร้างเกมภาคสองนี้ทางค่ายพัฒนาได้ขยายเรื่องราวออกไปกว้างขวางมากขึ้น ในภาคแรกเกมจะเจาะจงไปที่ความสัมพันธ์ของโจเอลและเอลลี่ แต่ในภาคนี้มีตัวละครใหม่มากมายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีตัวละครเยอะจะทำให้ตัวละครหลักของภาคแรกหมดความสำคัญ
แต่ด้วยจักรวาลที่ Naughty Dog ได้สร้างขึ้นในภาคนี้มันทำให้เกิดความสัมพันธ์ซับซ้อนขึ้น ทุกตัวละครต่างมีเรื่องราวเบื้องหน้าและเบื้องหลังเกิดเป็นมิติและไม่ทำให้เนื้อเรื่องราบแบน เราไม่อาจจะคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปได้เลย เรื่องราวมีความละเอียดลึกซึ้งแม้แต่จดหมายที่เราพบเห็นระหว่างการผจญภัยล้วนแล้วมีเรื่องราว และ มันไม่ใช่แค่จดหมายเรื่องราวเล็ก ๆ ในเกมแต่เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของเกมเพลย์ด้วย
จากเนื้อเรื่องขั้นต้นที่ผู้เขียนกล่าวไว้มันให้อารมณ์ความโกรธแค้น, อยากจะกำจัดมันและความเศร้าที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละครและเกมเพลย์ได้อย่างไร้ที่ติ ในระหว่างการล้างแค้นนี้เองอารมณ์ของคุณอาจจะเปลี่ยนไปได้ เรื่องราวต่าง ๆ จะมาเขย่าแนวคิดเรื่องถูก – ผิด, ดี – เลว และ คนดี – คนชั่วของคุณออกมา บอกได้เลยว่าเมื่อคุณเล่นจบคุณประทับใจจนอาจเสียน้ำตาได้เลย ผู้เขียนเชื่อแล้วว่า “นี่เป็นเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Naughty Dog” ดั่งที่พวกเขาเคยกล่าวไว้และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีค่ายเกมใดจะสื่อสารเนื้อเรื่องออกมาได้ขนาดนี้จนแฟนผู้เขียนซึ่งเป็นผู้ที่ไม่เคยสัมผัสภาคแรกเลย ยังเอ่ยปากมาว่าเนื้อเรื่องสนุกกว่าซีรี่ย์บางเรื่องเสียอีก รวมถึงมีฉากเซอร์ไพร์สมากมาย เกมนี้เป็นเกมสเกลใหญ่จริง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบผู้เขียนใช้เวลาเล่นราว 35 ชั่วโมงโดยเนื้อเรื่องอัดแน่นตลอดทั้งหมด แล้วหากสำรวจอย่างละเอียดจริง ๆ ก็อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ด้วยซ้ำ
สำหรับประเด็นสำคัญเรื่องสปอยล์ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เมื่อผู้เขียนเล่นจบและกลับไปอ่านสปอยล์พบว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่หลุดออกมาไม่ตรงแถมสื่อออกมาให้เข้าใจผิดด้วย และผู้เขียนย้ำอีกครั้ง “อย่าเชื่อกับสิ่งที่คุณยังไม่ได้สัมผัส” คุณยังไม่ได้ลองเล่นด้วยซ้ำคุณไม่รู้ถึงสิ่งที่ทางทีมงานพยายามรังสรรค์ออกมาเพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเล่นคุณจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเอง
หลายคนทราบกันแล้วว่าเกม The Last of Us Part II รองรับเมนูและซับไทเทิลภาษาไทย ผู้เขียนกล้าพูดได้เลยว่ามันเป็นเกมที่ถูกแปลเป็นภาษาไทยที่ดีที่สุดในขณะนี้ การใช้คำศัพท์ต่าง ๆ ทั้งหมดสามารถบรรยายความรู้สึกตัวละครออกมาได้ดีเยี่ยมจริง ๆ การใช้ถ้อยคำ รวมถึงการใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมและแปลออกมามืออาชีพ อ่านเข้าใจและรู้สึกถึงคำพูดของตัวละครจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกจดหมายต่าง ๆ รวมถึงป้ายภาษาอังกฤษทั้งหมดในเกมผู้เล่นสามารถกดอ่าน หรือกดแปลภาษาป้ายต่าง ๆ ในเกมได้ด้วย สำนวนและไวยากรณ์ที่ใช้เทียบเท่ากับซับไทเทิลในโรงภาพยนตร์ได้เลย แต่แน่นอนอาจจะมีบางศัพท์ที่อาจจะแปลได้ดีกว่านี้ซึ่งเชื่อว่ามันจะสามารถพัฒนาไปต่อได้อีก แต่ทำได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก
ระบบเกมเพลย์ของ The Last of Us Part II ได้ถูกต่อยอดปรับปรุงจากเกมภาคแรกให้มีระบบที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งยังมีระบบใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้รองรับสไตล์การเล่นได้หลายแบบมากขึ้นอีกด้วย เริ่มต้นกันที่ระดับความยากของเกมซึ่งมีให้เลือกเล่นถึง 5 ระดับได้แก่ นักสำรวจ, ง่าย, ปานกลาง, ยาก และโหดมาก นอกจากนี้หากผู้เล่นรู้สึกว่ามันยังไม่พอดีสำหรับตัวเองในเกมนี้เราสามารถกำหนดระดับความยากได้เองด้วยโดยเกมจะมีตัวเลือกย่อยให้ผู้เล่นได้ปรับว่าต้องการยากขนาดไหนอาทิเช่นเวลาพบพวกติดเชื้ออาจจะไม่ต้องการยาก แต่พอต้องปะทะกับมนุษย์กันเองชอบยาก ๆ ก็สามารถปรับได้ ไม่เพียงแค่นั้นทางทีมพัฒนายังนำเสนอตัวเลือก “การเข้าถึง” มากกว่า 60 ตัวเลือกเพื่อให้เกมสามารถเข้าถึงเกมเมอร์ทุกกลุ่มครับ
เกม The Last of Us Part II ยังคงคอนเซ็ปต์มุมมองบุคคลที่สามตามแบบฉบับของค่ายในแนวเอาชีวิตรอด ความรู้สึกไม่ได้ต่างอะไรจากภาคแรกนักแต่จะรู้สึกถึงระบบใหม่ ๆ ที่ถูกใส่เข้ามาในเกม จากภาคแรกที่เราบังคับเป็นโจเอลซึ่งทำให้เอลลี่มีข้อจำกัดมากมาย แต่ในคราวนี้เราจะได้บังคับเป็นเอลลี่ซึ่งมีความคล่องตัวและมีอิสระในการบังคับอย่างแรกเลยคือการกระโดดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด หรือการกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง เปิดโอกาสให้รองรับการเล่นหลายสไตล์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลไกใหม่คือการนำเชือกเข้ามาใช้ประโยชน์ในเกม ผู้เล่นสามารถโยนเชือกขึ้นไปที่สูงเพื่อใช้ไต่ขึ้นไปยังหลังคาของอาคาร หรือโรยตัวจากที่สูงลงมาที่ต่ำก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา ระบบเชือกนี้ก็โผล่ออกมาเป็นช่วง ๆ ระหว่างเราผจญภัยอยู่ในโลกอันล่มสลายในเกม
ในภาคสองนี้เอลลี่มีความคล่องตัวและสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว รวมถึงกดวิ่ง, คลาน, เดินผ่านช่องแคบ และเอลลี่ของเราว่ายน้ำได้แล้ว ทำให้มันกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของเกมเพลย์ เราสามารถใช้ประโยชน์ของการดำน้ำนี่เองลอบเร้นและปั่นหัวศัตรูยกตัวอย่างคือ เราดำน้ำล่อศัตรูจากนั้นดำไปอีกด้านก่อนลอบสังหารแบบเงียบ ๆ และนี้เป็นส่วนหนึ่งในระบบลอบเร้นใหม่ที่ทีมงานได้สร้างขึ้นในเกม ในเกมภาคนี้ระบบลอบเร้นได้ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์
ผู้เล่นสามารถใช้ประโยชน์จากพงหญ้าสูงในการซ่อนตัว หรือการคลานไปใต้ยานพาหนะหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อหลบหลีกสายตาจากศัตรู เกมยังคงรูปแบบการหาเสบียงกระสุนหรือวัตถุในการคราฟท์ที่จำกัด ทำให้การลอบเร้นมีความสำคัญและเป็นหัวใจหลักในเกมภาคนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากในหลาย ๆ ครั้งเราไม่อาจจะลุยเข้าปะทะศัตรูตรง ๆ เพราะจะโดนศัตรูรุมจนตายไปในที่สุด ผู้เขียนรู้สึกได้เลยว่าเอลลี่มีความคล่องตัวและเคลื่อนไหวเร็วกว่าโจเอลในภาคแรกเพราะอาจจะยังสาวไฟแรงด้วยมั้ง
ศัตรูมนุษย์ในภาคนี้มีความเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบดีมาก เราจะได้เผชิญกับศัตรูสองกลุ่มที่มีสไตล์การต่อสู้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลุ่มแรกคือกลุ่ม Washington Liberation Front หรือ WLF กลุ่มที่ได้ยึดอำนาจจากทหารจนมีทรัพยากรและอาวุธสงครามมากมาย กลุ่ม WLF นี้มีกำลังคนเยอะรวมไปถึงมีการฝึกฝนสุนัขให้สามารถดมกลิ่นของศัตรูได้ ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะสกิลการฟัง (Listen Mode) ทักษะจากภาคแรกที่ถูกต่อยอดให้สามารถแสดงกลิ่นที่อาจจะทำให้สุนัขสาวถึงตัวเราได้ง่าย ๆ สุนัขนี่ตัวดีเลยหากเราซ่อนอยู่พงหญ้าไม่ก็หลบอยู่ถ้าไม่ระวังมันอาจจะเจอตัวคุณเข้ามาขย้ำจนตาย ไม่ก็มันจะเห่าจนศัตรูได้ยินและพากันไล่ยิงเราไม่ยั้ง
อีกกลุ่มหนึ่งคือพวก Seraphites หรือมักจะถูกเรียกว่า Scare มันเป็นกลุ่มคลั่งศาสนาที่เชื่อว่าพระเจ้าปล่อยโรคปริศนานี้ออกมาเพื่อสร้างสมดุลในโลก พวกนี้ไม่มีอาวุธดี ๆ เหมือนเราหรือ WLF แต่พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการใช้สิ่งแวดล้อมรอบด้านเพื่อเข้าโจมตีเราแบบไม่ทันตั้งตัว พวกเขามีธนูอาบยาพิษเมื่อถูกยิงเข้าเราต้องรีบเอาลูกธนูออกทันทีมิเช่นนั้นมันจะลดเลือดเราไปเรื่อยๆ ไม่ก็อาวุธค้อนหรืออาวุธโจมตีระยะใกล้ที่หากเจอทุบเพียง 2 ทีอาจจะทำให้ตายได้ เอกลักษณ์อีกอย่างพวกมันจะใช้การผิวปากในการสื่อสารระหว่างกัน เมื่อมันพบเราเข้ามันจะผิวปากให้คนอื่นรู้ทันที
ดังนั้นการที่จะก้าวเดินผ่านเขตของศัตรูต้องมีการคิดวางแผนการเข้าโจมตี ไม่ใช่เดินเข้าไปดื้อ ๆ การันตีว่าตายแน่นอน ศัตรูอย่างที่ผู้เขียนกล่าว AI มีความฉลาดเมื่อพวกมันเห็นเรามันจะเรียกกำลังหนุนมาทันที และไม่ว่าคุณจะซ่อนอยู่ใต้ยานพาหนะหรือพงหญ้า มันก็จะก้มดูหรือเข้าไปตรวจสอบพงหญ้าให้แน่ใจ หรือระหว่างปะทะกันศัตรูคนอื่น ๆ อาจจะอ้อมมาตีเราด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัวด้วย เพราะฉะนั้นต้องใช้สิ่งแวดล้อมและความกว้างของสถานที่ให้เป็นประโยชน์ เมื่อพูดถึงพื้นที่ในเกมแล้วก็ต้องบอกได้เลยว่ามันเป็นเกมเหมือนกึ่งโอเพ่นเวิลด์ส มันกว้างขวางและมีอะไรให้สำรวจเยอะมากจริง ๆ จนผู้เขียนไม่รู้สึกว่าเกมมันเป็น Sandbox เลย จากเมืองแจ็คสัน สู่เมืองซีแอตเทิลอันกว้างใหญ่ซึ่งหากไม่ได้มาสัมผัสเองจะไม่เชื่อเลยว่าเกมมันมีสเกลที่ใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ
พอถึงเมืองซีแอตเทิลผู้เขียนได้ทึ่งกับความกว้างของเกมมาก ๆ และเชื่อผู้กำกับที่ออกมาบอกว่าผู้เล่นอาจจะพลาดฉากบางฉาก หรือพลาดการปะทะของศัตรูบางส่วนด้วยเนื่องจากฉากมันใหญ่มาก ๆ ตึกอาคารหรือร้านบางร้านดูเหมือนจะเข้าไม่ได้แต่ที่จริงแล้วมันเข้าไปสำรวจได้เกือบทุกซอกทุกมุม ผู้เขียนยังคิดเลยว่าถ้าเราไม่ได้เข้ามาสำรวจอาคารนี้เราจะไม่ได้ปะทะกับผู้ติดเชื้อ หรือวัตถุต่าง ๆ ไว้คราฟท์อาวุธหรือไว้อัพเกรดปืน เพราะฉะนั้นสำรวจเข้าไว้ครับไม่ต้องรีบจงดื่มด่ำกับบรรยากาศเกมให้เต็มที่
ในเกมจะขาดอรรถรสไปหากไม่มีเหล่าพวกติดเชื้อซึ่งในภาคสองนี้นอกจากการกลับมาของ Clicker แล้วยังมีพวกติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเข้ามา ด้วยความที่โลกได้ล่มสลายมาเป็นเวลานานพวกติดเชื้อเริ่มมีวิวัฒนาการจนเกิดสายพันธุ์ใหม่เรียกว่า Shambler พวกมันสามารถกลายพันธุ์มีรูปร่างตั้งแต่เล็กไปจนใหญ่โต พวกมันจะปล่อยพิษออกมาเพื่อโจมตี มันจะกัดกร่อนเราเมื่อเข้าไปใกล้ หรืออาจจะเจอกับพวกที่เรียกว่า Runner พวกมันมีความเฉลียวฉลาด ว่องไว และชอบเข้าโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว พวกติดเชื้อปกติก็มีความฉลาดมากขึ้นกว่าภาคแรก ในหลาย ๆ ครั้งเราไม่สามารถเข้าไปบวกตรง ๆ ได้และต้องมีการวางแผนลอบเร้นเข้าไปสังหาร ส่วนตัวแล้วทางทีมงานได้ออกแบบเกมมาอย่างสมดุลระหว่างศัตรูมนุษย์และพวกติดเชื้อ ยิ่งไปกว่านั้นเราอาจจะได้เผชิญกับศัตรูทั้งสองในเวลาเดียวกัน เราก็สามารถใช้สไตล์การเล่นของเราหลอกให้ฆ่ากันเองได้
สิ่งที่จะใช้ในการต่อกรกับพวกศัตรูจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากอาวุธที่มีให้เลือกใช้อย่างมากมายในเกม อาวุธในภาคนี้ก็เหมือนยกอาวุธจะภาคแรกมาเป๊ะ ๆ ตั้งแต่ปืนลูกโม่, ปืนลูกซอง ไปจนถึงธนู แต่ในภาคนี้ก็มีปืนใหม่ ๆ เข้ามาให้เลือกใช้อยู่ 2-3 อย่างเช่นหน้าไม้เป็นต้น ส่วนการอัพเกรดอาวุธก็เหมือนภาคแรกเช่นกันโดยเราต้องสะสมฟันเฟืองจากสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้อัพเกรดดัดแปลงอาวุธ ความเปลี่ยนแปลงคือตัวโต๊ะช่าง (workbenches) เมื่อใดที่เราอัพเกรดอาวุธจะมีอนิเมชั่นสวย ๆ ให้ชมระหว่างรออัพเกรดด้วยเจ๋งดี
ส่วนทางด้านไอเทมเสริมอื่นไม่ว่าจะเป็นระเบิดขวด, ชุดปฐมพยาบาล หรือมีด ล้วนแล้วก็ได้หยิบยกมาจากภาคหนึ่งทั้งสิ้นครับ โดยผู้เล่นจะต้องรวบรวมส่วนผสมและชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับการสร้างไอเทมที่หาได้จากการสำรวจ แล้วในภาคนี้มีอะไรใหม่บ้าง สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือมีไอเทมให้คราฟท์เยอะขึ้น อาทิ ระเบิดควัน, ลูกธนูระเบิด, ที่เก็บเสียง หรือแม้แต่ลูกกระสุนลูกโม่ และอื่น ๆ อีกเพียบ จุดนี้ช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้เล่นเยอะดีทีเดียว
แต่ในส่วนของทักษะสกิลเรียกได้ว่ายกเครื่องใหม่เลยก็ว่าได้ ในเกมภาคแรกสกิลไม่เยอะแต่จะมีขั้นให้เราอัพเกรด ทว่าในภาคสองนี้สกิลจะถูกแบ่งออกเป็นประเภททั้งหมด 5 ประเภททักษะ (หรือมากกว่านั้นไว้ไปติดตามกันเอง) เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้เล่นตั้งแต่สกิลเอาชีวิตรอด, การลอบเร้นไปจนถึงทักษะความรู้ในการสร้างไอเทมมากขึ้น การจะอัพเกรดสกิลทักษะนี้เช่นเดียวกับภาคแรกคือสะสมยาแคปซูลตามจำนวนที่ต้องการ แต่ช้าก่อนไม่ใช่ว่าเราจะสามารถอัพเกรดสกิลได้ตั้งแต่ต้นนะ การที่จะอัพเกรดสกิลได้เราจะต้องพบกับหนังสือคู่มือของสกิลแต่ละประเภทเสียก่อนซึ่งมันถูกกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของเกม เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาสำรวจเยอะหน่อย เชื่อเถอะคุณจะเพลินกับการสำรวจจนยังไม่อยากไปจุดต่อไป
อื่น ๆ นอกจากเกมเพลย์ไอเทมสะสมต่าง ๆ อาทิพวกจดหมายในเกมเป็นส่วนสำคัญของเกมเพลย์ ในเกมจะมีให้เซฟให้เปิดเพื่อเอาไอเทมด้านในแต่การที่จะเปิดได้ก็ต้องมีรหัส แล้วเอาจากไหน? เอาจากจดหมายที่วางอยู่ในสถานที่นั้นนี่เองครับ ผู้เขียนชอบที่ทางทีมงานหยิบจุดนี้มาทำมาก ๆ มันทำให้รู้สึกว่าไอเทมสะสมนี้ไม่ได้สะสมเพื่อเก็บถ้วยอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญและใส่ลูกเล่นเสริมเข้าไปในเกมเพลย์ทำให้เราสนใจที่จะอ่านจดหมายเหล่านี้มากกว่าเจอแล้วเก็บไป
นอกจากนี้เมื่อเล่นจบแล้วเราสามารถเริ่มเล่นใหม่กับโหมด New Game+ (เริ่มใหม่ +) ซึ่งเราจะสามารถเริ่มเล่นใหม่ด้วยอาวุธและสกิลทักษะที่เราสะสมจากการเล่นรอบก่อนครบครัน ผู้เขียนชอบนะมันให้อารมณ์อีกแบบนึงเลย หรือผู้เล่นจะเลือกเล่นเป็นบท ๆ ก็ได้โดยบริเวณเมนูจะมีสถิติบอกด้วยว่าเราเก็บของสะสมครบหรือไม่ และอีกโหมดนึงคือ Encounter ซึ่งเราสามารถเลือกฉากในบทต่าง ๆ เพื่อปะทะกับศัตรูได้ด้วยนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโบนัสคอนเทนต์ให้ปลดล็อคสูตรโกงกระสุนไม่จำกัดหรือคราฟท์ไม่จำกัดได้ด้วย สิ่งที่น่าเสียดายอย่างเดียวคือไม่มีโหมดออนไลน์มัลติเพลเยอร์เหมือนภาคแรก
สำหรับเกมเพลย์โดยรวม The Last of Us Part II ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายภาคแรกเอามาก ๆ ทั้งระบบอาวุธและระบบการคราฟท์ยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้แต่ได้ถูกปรับปรุงต่อยอดให้ดีมากขึ้นมีความหลากหลายมากขึ้น เสริมด้วยระบบการลอบเร้นที่หลากหลายกว่าเดิม ความคล่องตัวของเอลลี่ไม่ว่าจะวิ่ง, กระโดด, คลานหรือว่ายน้ำ ทางทีมพัฒนาผสมผสานออกมาได้ดีเยี่ยมจริง ๆ มันปลดล็อคสไตล์การเล่นได้หลายแบบกว่าภาคก่อนมาก ๆ ผู้เขียนการันตีได้เลยว่าถูกใจชาวเพลย์สเตชั่นอย่างแน่นอน
ผู้เขียนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกม The Last of Us Part II เป็นหนึ่งในเกมที่มีภาพสวยที่สุดในคอนโซลเจนเนอร์เรชั่นนี้เลยก็ว่าได้ครับ องค์ประกอบและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ถูกรังสรรค์ออกมาได้ละเอียดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะอันขาวโพลน จนถึงเมืองซีแอตเทิลที่เต็มไปด้วยซากอาคารรกร้างที่ถูกธรรมชาติเข้ามาเอาคืน การเล่นแสงและพื้นผิวต่าง ๆ ล้วนใส่ใจในการพัฒนาทั้งสิ้น แต่พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของ Naughty Dog ได้มีการใส่รายละเอียดเข้าไปมากในระดับผิวของตัวละคร เราสามารถสังเกตได้ถึงเส้นเลือดบนหน้าตัวละครและการขยับของใบหน้าอันสมจริง และแน่นอนครับว่าดนตรีประกอบของเกมยังคงเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นบ่งบอกว่ามันคือเกม The Last of Us
ภาพกราฟิกอันงดงามนี้แน่นอนว่าก็ต้องมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพฟังชั่นครบครันไม่ว่าจะปรับมุมกล้องตามใจชอบ การปรับแต่งฟิลเตอร์ต่าง ๆ การปรับระยะโฟกัสและการใส่โลโก้เข้าไปในเกม ทั้งหมดนี้ผู้เล่นสามารถกดเข้าสู่โหมดถ่ายภาพเมื่อไหร่ก็ได้เลย แต่สิ่งที่ผมชอบคือโหมดถ่ายภาพมันยังคงใช้งานได้แม้เราจะอยู่ในฉากคัทซีน ใช่แล้วครับในเกมนี้เราสามารถใช้งานโหมดถ่ายภาพในฉากคัทซีนได้ซึ่งขจัดปัญหาในกรณีที่ถ่ายไม่ทัน มีเพียงข้อจำกัดอย่างเดียวคือหากอยู่ในฉากคัทซีนจะไม่สามารถปรับมุมกล้องได้ แล้วถ้ากดถ่ายจังหวะคัทซีนไม่ทันจริง ๆ ล่ะ? ในกรณีนี้ทีมพัฒนาคิดล่วงหน้ามาให้ท่านแล้ว เราสามารถจะกดย้อนดูคัทซีนได้ทันทีเลยเจ๋งมาก
มาต่อกันด้านประสิทธิภาพกันบ้าง เกมจะโหลดเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อตอนโหลดเซฟเข้าเกมครั้งแรกหลักจากนั้นตัวเกมจะไม่มีการโหลดอีกเลยนอกจากจะตายเท่านั้น การโหลดระหว่างคัทซีนและเกมเพลย์มันไร้รอยต่อแบบว่าซีมเลสสุด ๆ ไม่มีจุดใดแสดงให้เห็นว่าเรากำลังเข้าสู่ฉากคัทซีนคือเหมือนดูภาพยนตร์ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เรื่องนี้ขอชื่นชมจริง ๆ ส่วนเมื่อตายแล้วเกมก็ใช้เวลาโหลดไม่นานเลยเรียกว่าโหลดแทบจะทันที ส่วนเฟรมเรตก็ราบรื่นสมดุลไม่มีตกหรือฉากโหลดไม่ทันแต่อย่างใด ผู้เขียนเล่นบน PS4 Pro (รุ่น 500 Million) ซึ่งน่าแปลกว่าด้วยกราฟิกขนาดนี้ เกมเพลย์ใหญ่ขนาดนี้ แต่เวลาเล่นกลับไม่ทำให้เครื่องทำงานหนักจนพัดลมดังเลยแม้แต่น้อย กลับกันผู้เขียนก็ได้ทดสอบเล่นบน PS4 รุ่น Base Model เครื่องทำงานหนักพอดูมีเสียงดังแต่ไม่ได้ถึงแบบว่าเป็นเครื่องบินเจ็ทจนกลบเสียงเกม
The Last of Us Part II ถือเป็นเกมภาคต่อที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของโจเอลและเอลลี่ได้เป็นอย่างดีโดยเป็นอีกครั้งที่ Naughty Dog สามารถเซ็ทมาตรฐานใหม่กับกับวงการเกมไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอพล็อตเนื้อเรื่องที่มีความซับซ้อนและการสร้างมิติให้กับตัวละครกับเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังที่น่าติดตามซึ่งเต็มไปด้วยข้อคิดดี ๆ มากมาย ไม่เพียงแค่การนำเสนอเนื้อเรื่องอันสุดยอดแต่มันถูกปรุงรสด้วยเมนูและซับไทเทิลภาษาไทยที่เพิ่มอรรถรสมากขึ้น ผู้เขียนขอยกให้เป็นเกมที่แปลไทยได้ดีที่สุดในเวลานี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเกมเพลย์ที่เอาระบบกลไกจากภาคแรกมาต่อยอดและเสริมด้วยระบบใหม่มากมายให้สอดคล้องกับยุคสมัยและเหมาะสมกับสไตล์การเล่นหลายแบบ ทั้งเกมเพลย์และเนื้อเรื่องถูกนำเสนอออกมาเป็นภาพกราฟิกอันสวยงามมีการใส่ใจทุกรายละเอียดทุกอณูจนเห็นเส้นเลือดตัวละคร เสริมด้วยโหมดถ่ายภาพที่กดเปิดใช้งานได้ทุกเมื่อแม้จะอยู่ในฉากคัทซีนครับ ประกอบกับดนตรีอันไพเราะเข้ากับบรรยากาศเกมได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ผู้เขียนพูดตรง ๆ ว่าเกม The Last of Us Part II นี้มันไร้ที่ติจริง ๆ ชาวเพลย์สเตชั่นทุกคนควรสัมผัสเกมนี้อย่างยิ่ง!!
10/10
จุดเด่น (Pro)
- เรื่องราวที่มีความสัมพันธ์อันซับซ้อน ตัวละครต่าง ๆ สื่อออกมาอย่างมีมิติและให้อารมณ์ครบทุกรสชาติ
- เกมเพลย์ให้กลิ่นอายเหมือนภาคแรกแต่ถูกต่อยอดและเสริมด้วยระบบใหม่ ๆ มากมาย สามารถออกแบบการเล่นได้หลายสไตล์
- โลกอันล่มสลายอันกว้างใหญ่มีพื้นที่ให้สำรวจกว้างขวางมากจนไม่รู้สึกว่ามันคือเกม Sandbox
- กราฟิกสุดตระการตาเก็บทุกรายละเอียด มาพร้อมโหมดถ่ายภาพที่สามารถเปิดใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้
- ประสิทธิภาพค่อนข้างดีโหลดเข้าเกมรอบเดียว, ฉากระหว่างคัทซีนไร้รอยต่อ และเฟรมเรตนิ่ง
จุดสังเกต (Con)
- ไม่มีโหมดออนไลน์
รีวิวและเขียนบทความโดย Play4Thai
ขอบคุณ โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงค์โปร
สำหรับโค้ดเกมที่ให้เรามารีวีวครับ