วันนี้ Ubisoft ได้ประกาศว่าอัปเดตใหม่ของ Assassin’s Creed® Valhalla พร้อมให้เล่นแล้ว โดยมีการเพิ่มเติมคอนเทนต์ฟรีให้ผู้เล่นทุกคนได้เล่นในเกม นั่นคือโหมดเกมใหม่, การอัปเกรด Jomsvikings, ความสามารถและรางวัลใหม่ และอาคารใหม่สองแบบที่ปลดล็อกได้ใน Settlement – River Raid Dock และ Jomsviking Hall
River Raids คือส่วนเสริมถาวรของเกมและเป็นโหมดใหม่ที่เล่นซ้ำได้ ซึ่งเต็มไปด้วยประสบการณ์ในการ raid ของ Assassin’s Creed Valhalla โหมดนี้ประกอบไปด้วย:
- การ raid ที่เดิมพันสูงกว่าเดิม, ด้วยฉากและรางวัลพิเศษให้ผู้เล่นสามารถ raid ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเกมหลักและพันธมิตรที่สร้างไว้ในอังกฤษ สิ่งที่ต่างจากการ raid ดั้งเดิมคือคุณอาจเสียสมาชิกกลุ่ม raid ได้ชั่วคราวหากผู้เล่นไม่ชุบชีวิตพวกเขาในขณะ raid
- ลูกเรือ Jomsviking: บรรดา Jomsvikings ที่ชักชวนมาแล้ว (ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้เล่นอื่นในแบบออนไลน์) จะมีผู้นำเป็น Jomsviking Lieutenant ส่วนตัวของผู้เล่น
- Longship แบบใหม่: เรือ longship แบบใหม่ที่สามารถปรับแต่งได้เต็มสูบ เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะโหมดนี้เท่านั้น – ซึ่งความจุเรือสามารถอัปเกรดได้เพื่อนำทรัพยากรกลับมาได้มากขึ้นจาก River Raids
Jomsviking Hall แบบใหม่จะมีการอัปเกรดได้สามระดับใน Season 1, ยิ่งเลเวลของ Hall สูงเท่าไหร่ แรงค์ของ Jomsvikings ที่ผู้เล่นจะชักชวนมาเป็นพวกได้ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น Jomsviking เองก็จะมีแรงค์แล้วเช่นกัน และยิ่ง Jomsvikings มีแรงค์สูงก็จะยิ่งมีโอกาสเอาตัวรอดใน River Raids ได้มากขึ้น
ภายหลังจากที่ผู้เล่นเคลียร์หนึ่งในเนื้อเรื่องช่วงแรกในอังกฤษได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Grantebridgescire หรือ Ledecestrescire ก็ตาม และได้สร้าง Barracks พร้อมทั้งชักชวน Jomsviking Lieutenant มาเรียบร้อย ผู้เล่นก็จะได้พบกับ NPC หน้าใหม่ชื่อ Vagn และลูกเรือ Jomsvikings ของเขา ซึ่งเขาจะแนะนำผู้เล่นให้ได้รู้จักกับโหมดเกม River Raids นั่นเอง โหมดนี้จะนำเสนอฉากแม่น้ำใหม่สามฉาก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแนวชายฝั่งของอังกฤษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีองค์ประกอบสมบูรณ์ให้ raid และสมบัติให้ปล้น
สุดท้ายนี้ การอัปเดตจะเพิ่มความสามารถและรางวัลใหม่เสริมเข้ามา:
- เซ็ต Saint George Armor และ Great Sword
- 3 ความสามารถใหม่ ซุกซ่อนอยู่ในอาราม
- 2 อาคารใหม่สำหรับ Settlement
- Longship ชุดใหม่และเครื่องแต่งกายของผู้เล่น
อัปเดตโหมดเกม River Raids อันเป็นส่วนหนึ่งของ Season 1, คือส่วนเสริมล่าสุดและเป็นหนึ่งในประสบการณ์หลังเกมวางจำหน่ายของ Assassin’s Creed Valhalla ด้วยคอนเทนต์ใหม่อันหลากหลายให้ผู้เล่นทุกคนได้เน้นด้านเกมเพลย์และการเปลี่ยนแปลงของโลกในเกม ซึ่งจะมาให้เล่นตลอดปี 2564
Season 2 ชื่อว่า Ostara จะเริ่มในเดือนมีนาคม 2564 โดยอัปเดตแรกจะนำงานเทศกาลมาสู่ Settlement ซึ่งเป็นโหมดเกมใหม่ที่สร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ด้านระบบต่อสู้หลักของ Valhalla, ทั้งยังมีอุปกรณ์ใหม่และเครื่องแต่งกาย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของ Wrath of the Druids ซึ่งเป็นส่วนขยายแรกของ Assassin’s Creed Valhalla จะมาให้เล่นกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2564 นี้ในภายหลัง
ด้วยฝีมือการพัฒนาของทีมนำโดย Ubisoft Montreal** Assassin’s Creed Valhalla มอบประสบการณ์อันตรึงใจให้กับผู้เล่นที่ได้สวมบทบาทเป็น Eivor นักรบไวกิ้งในตำนาน ที่ต้องร่อนเร่จากนอร์เวย์เพราะภัยสงครามอันไม่รู้จบ และทรัพยากรอันร่อยหรอในช่วงศตวรรษที่ 9 ผู้เล่นจะได้พบกับการต่อสู้อันเหี้ยมโหดของนักรบไวกิ้ง ด้วยระบบการใช้อาวุธสองมือรูปแบบใหม่ และพบกับระบบเกมเพลย์อย่างการออกปล้น, บุกจู่โจมปราสาท, และการสร้างเมืองที่มั่น, รวมไปถึงระบบการอัปเกรดอุปกรณ์รูปแบบใหม่ สร้างพันธมิตรทางการเมือง, การตัดสินใจระหว่างการต่อสู้ และเลือกบทสนทนา จะมีผลต่อโลกของ Assassin’s Creed Valhalla ดังนั้นผู้เล่นจะต้องเลือกปกป้องบ้านของเผ่าตัวเองและอนาคตอย่างชาญฉลาดที่สุด
ข้อมูลจาก Ubisoft Press Release