มาแล้วกับอีกหนึ่งเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ PS5 ที่หลายคนรอคอยกับ Returnal เป็นผลงานการพัฒนาเกมจากค่าย Housemarque ผู้ที่เคยฝากผลงานเกมแนวอินดี้ชั้นนำอย่าง Resogun และ Super Stardust HD ครั้งนี้พวกเขาได้เสี่ยงครั้งสำคัญกับการพัฒนาเกมฟอร์มยักษ์เกมแรกของพวกเขากับ Returnal เกมสไตล์ roguelike มาพร้อมเรื่องราวเอาชีวิตรอดของนักสำรวจคนหนึ่ง กับเกมส์สุดมันส์และการดึงคุณสมบัติ PS5 ออกมาใช้อย่างเต็มที่ แล้วสำหรับเกมฟอร์มยักษ์เกมแรกจาก Housemarque จะเป็นอย่างไร เรียนเชิญอ่านรีวิวเต็มกับ Returnal – การสำรวจมรณะบนดาวเคราะห์พิศวง
เนื้อเรื่อง
Returnal เหตุการณ์เกิดในภายหลังจากที่ยานอวกาศได้หลุดวงโคจรมายังโลกที่มิติบิดเบี้ยว ทำให้เซลีน (Selene) พร้อมกับยานของเธอตกลงมายังดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า Atropos นักสำรวจอวกาศต้องออกสำรวจในภูมิประเทศเต็มไปด้วยซากอารยธรรมโบราณและสิ่งแวดล้อมอันแปลกตา ดาวนี้เองยังมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่คาดฝันรอเธออยู่และเธอจะต้องเอาชีวิตรอดให้จงได้
ตัวเกมเปิดมาพร้อมฉากคัตซีนและเรื่องราวที่ปูมาอย่างเรียบง่ายแต่น่าติดตาม เรียกได้ว่าฉีกแนวไปจากเกมอินดี้ที่พวกเขาเคยสร้าง และถึงแม้เกมจะเป็นแนว roguelike ก็ตาม แต่เนื้อเรื่องไม่ได้อ่อนลงเลย มันกลับมีอะไรน่าค้นหาแฝงซ่อนอยู่บน Atropos มากมายรอให้เราได้ค้นหา ในช่วงแรกผู้เขียนเองเล่นไปสัก 4 ชั่วโมงแทบจะยังไม่ทราบอะไรสักเท่าไหร่ จุดนี้ต้องอาศัยการสำรวจเพื่อค่อย ๆ คลี่คลายปริศนาเรื่องราวไปทีละจุด เมื่อหาเจอมันเป็นเบาะแสชวนให้เราติดตามเรื่องราวเกมจนจบแบบไม่เบื่อเลย ไม่เพียงเท่านี้เรายังได้เรียนรู้เรื่องราวของเซลีน (Selene) มากขึ้นไป แล้วยังได้กลิ่นอายความสยองขวัญความน่ากลัวด้วย ตรงส่วนเนื้อเรื่องนี้โดยรวมนำเสนอออกมาได้ไม่เลวเลย
เกมเพลย์
Housemarque ได้นำไอเดียจากเกมอินดี้ของพวกเขาอย่างรูปแบบฝ่าดงกระสุน (Bullet-hell) มาผสมผสานจนได้เป็น Returnal กับเกมเพลย์รูปแบบสไตล์ roguelike จนได้เกมเพลย์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มุมมองของเกมจะเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ถือปืนตะลุยฝ่าดงกระสุนของศัตรู ในช่วงแรกเราจะเจอศัตรูเป็นเอเลี่ยนลูกกระจ๊อกก่อน แล้วจากนั้นเมื่อผ่านไปยังพื้นที่ถัดไปเรื่อย ๆ จำนวนศัตรูจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้เล่นจะได้เผชิญกับศัตรูประเภทใหม่ๆ ทั้งบนดินและอากาศกระหน่ำสาดกระสุนใส่
การบังคับทางผู้พัฒนาได้วางตำแหน่งปุ่มไว้อย่างดีตั้งแต่การกระโดด จนสไลด์หักหลบเร็วช่วยให้เราหลบหลีกศัตรูได้อย่างคล่องแคล่วแบบไม่มีติดขัด ด้วยตัวเราคนเดียวบางครั้งรู้สึกได้เลยว่าเหมือนโดนรุม เออลืมบอกไปอย่างเกมปรับระดับความยากไม่ได้ โชคยังดีที่ระบบอาวุธในเกมเรามีกระสุนไม่จำกัด แต่แน่นอนมันมาพร้อมระบบ cool down เป็นข้อแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ผู้พัฒนายังใช้ประโยชน์จาก Adaptive trigger ของ DualSense ในการแยกแยะการกดปุ่ม L2 ที่สามารถใช้ในการเล็งและยิงท่าพิเศษออกไป หากเรากด L2 ครึ่งเดียวจะเป็นการเล็งปกติ (เราจะรู้สึกมันแข็ง ๆ ) แต่เมื่อฝืนกดลงไปสุดมันจะกลายเป็นยิงท่าพิเศษเป็นชุด ๆ บอกตามตรงแรก ๆ ไม่ชินแต่พอคุ้นเคยแล้วผู้เขียนรู้สึกว่าเจ๋งมาก ๆ ส่วนทางด้านความหลากหลายของอาวุธในเกมไม่ได้หลายหลายอย่างที่คิด แต่ก็ยังดีที่เมื่อเล่นไปเลื่อย ๆ จะมีอาวุธปืนหลายระดับให้เก็บไปใช้งาน
มาดูลักษณะองค์ประกอบและสิ่งแวดล้อมในเกมกันบ้าง ตัวดาวเคราะห์ Atropos เป็นดาวเคราะห์ที่ลึกลับและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีภูมิประเทศต่าง ๆ เช่น Forest Ruins, Crimson Wastes และ Derelict Citadels อย่าหลงกลไปกับทุกสิ่งที่คุณเห็น มีไบโอมที่แตกต่างกัน 6 แบบให้คุณได้สำรวจและแสวงหาเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อประกอบเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน
สิ่งที่เพิ่มอรรถรสให้เกม Returnal เป็นพิเศษคือการตาย เพราะเกมนี้ไม่มีจุดเช็คพ้อยและไม่มีจุดเซฟ ทุกครั้งที่ตายตัวผู้เล่นจะถูกส่งกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ นอกจากนี้ทำให้ไอเทม (บางอย่าง) และอาวุธส่วนใหญ่ที่เราเก็บได้ในแต่ละรอบไซเคิลนั้นจะหายไป มิหนำซ้ำด้วยความเป็น roguelike ระบบจะสุ่มองค์ประกอบและพื้นที่ใหม่ขึ้นมาไม่ซ้ำกัน ภายใต้พื้นที่ไม่ซ้ำกันนี้เองเราจะจำได้คร่าว ๆ เองว่าเราเคยมาพื้นที่นี้แล้วหนิ ถึงกระนั้นแล้วศัตรูอาจจะต่างจากเดิม การเกิด 1 ครั้งเรียกว่า 1 ไซเคิล หลายคนคงสงสัยถ้าปิดเกมระหว่างทางแล้วเปิดใหม่ก็คือเริ่มใหม่? ถูกต้องครับ แต่เราสามารถระงับไซเคิลได้โดยใช้ฟังก์ชั่น Rest Mode ของเครื่อง PS5 มันเหมือนจะเป็นไอเดียที่ดีนะแต่ผู้เขียนว่ามันไม่เหมาะ กลายเป็นว่าอยากจะพักเลิกเล่นแล้ว ดันต้องเปิดเครื่องทิ้งไว้ใน Rest Mode อีกไม่งั้นหาย
กลับมาที่ตัวไซเคิลอย่างที่ผู้เขียนกล่าวไปทุกครั้งที่ตายไอเทม (บางอย่าง) อาวุธ เงินและระดับ Adrenaline (จะเพิ่มขึ้นทุก ๆ ครั้งที่เราทำคอมโบฆ่าศัตรูได้ติด ๆ กัน) ที่เราเก็บได้ในแต่ละรอบไซเคิลนั้นจะหายไป แต่สกิลหรือไอเทมส่วนใหญจะติดตัวเราไปยังไซเคิลต่อ ๆ ไป แต่แน่นอนศัตรูก็จะแกร่งขึ้นด้วยนะ ใครชอบความท้าทายเกมนี้เหมาะมากเพราะมันจะทำให้คุณหัวร้อนสุด ๆ เลย ความมันส์อยู่ที่ทุก ๆ ไซเคิลเราอาจจะปลดล็อคเรื่องราวใหม่ ๆ และศัตรูใหม่ ๆ ความอยากรู้อยากเห็นนี่เองทำให้เราอยากเล่นจนเสพติด
นอกจากซิงเกิลเพลย์เยอร์แล้วทาง Housemarque ได้ใส่องค์ประกอบออนไลน์เข้ามาด้วย และยังมี Daily Challenge ที่เรียกว่า “Helios” ให้ร่วมเล่นด้วย มันจะเป็นเทอร์มินอลที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นในการเก็บคะแนนเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนกระดานการแข่งขัน โดย Daily Challenge จะพร้อมใช้งานทันทีที่คุณเอาชนะโบโอมแรกได้ อีกส่วนนึงคือระบบ Social Systems เล่นออนไลน์กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งมันก็โอเคนะ แต่เมนูพวกนี้จะซ่อนอยู่ในเมนูตั้งค่าหรือตอนเริ่มเกม ผู้เขียนว่าเมนูเกมนี้ออกแบบมาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่มันดูงง ๆ ไม่เป็นสัดเป็นส่วนเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามมันเป็นข้อบกพร่องเล็ก ๆ ที่ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร
โดยรวมแล้วเกมเพลย์ของเกมสนุกและหัวร้อนมาก หากถามว่าเหมาะกับแคชชวลเกมเมอร์หรือไม่ ส่วนตัวผู้เขียนแล้วคิดว่าไม่เหมาะเพราะเกมค่อนข้างยากเลยและไม่มีจุดเซฟ ทางกลับกันหากใครชอบความท้าทายแบบนี้แล้ว ผู้เขียนบอกเลยว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่สนุกเกมนึงเลย
กราฟิกและประสิทธิภาพ
สมกับเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ PS5 จริง ๆ กราฟิกและองค์ประกอบที่ Housemarque ถ่ายทอดออกมาทำได้สวยงามไร้ที่ติมาก ๆ บรรยากาศดาวเคราะห์ Atropos ตัวละครและศัตรูออกแบบมาราวกับภาพยนตร์ Sci-fi ชั้นดีเรื่องนึงเลย แล้วด้วยเทคโนโลยี Ray-Tracing ทำให้เงาและแสงกระทบใส่วัตถุโดยรอบได้อย่างสมจริง ตัวโมเดลตัวละครและศัตรูบ่งบอกถึงกลิ่นอายความเป็น Housemarque สะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจน น่าเสียดายที่เกมไม่มี Photo Mode ให้ใช้งานกันครับ
สำหรับประสิทธิภาพเกมผู้เขียนกล้าพูดเลยว่าถ้าไม่ใช่ PS5 คงไม่สามารถสร้างประสบการณ์ roguelike แบบไร้รอยต่อได้ ด้วยฮาร์ดแวร์ทำให้แสดงผลภาพออกมาได้ 4K บนเฟรมเรตนิ่ง ๆ ที่ 60 FPS และเทคโนโลยี SSD ของ PS5 ทำให้ตัดเรื่องการโหลดทิ้งไปได้เลย เกมนี้ไม่มีหน้าโหลด (นอกจากหน้ากดข้ามคัตซีน) เวลาตายปุ๊บหากไม่อยากดูคัตซีนให้เสียเวลาก็กดข้ามเลย ตัวเกมก็จะโหลดพร้อมเล่นทันที เร็วทันใจจนเรียกได้ว่ารอโหลดไม่ได้อีกต่อไป
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ นอกจาก Adaptive trigger ที่ผู้เขียนกล่าวไปแล้วยังมี ระบบ Haptic feedback ของจอย DualSense ก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ๆ จนผู้เขียนสามารถสัมผัสได้ถึงเม็ดทรายแต่ละเม็ดได้เลย แล้วสำหรับใครที่มีหูฟัง Pulse wireless headset เป็นครั้งแรกเราจะได้สัมผัสเจอร์ 3D Audio ทำให้ผู้เขียนได้ยินตั้งแต่เสียงของเม็ดฝนที่ตกลงบนซากของยานอวกาศที่พัง ไปจนถึงการค้นหาศัตรูไม่ว่าจะข้างบน ข้างหลัง หรือด้านล่างของเรา มันรู้สึกได้จริง ๆ ถึงเสียงมาจากระยะไกล ๆ แบบไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนกล้ายืนยันว่ามันสมจริงและเพิ่มประสบการณ์การเล่นได้ดีมาก ๆ
Verdict
Returnal เป็นหนึ่งในเกมที่ถูกอกถูกใจเหล่าเกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมสไตล์ roguelike กับเรื่องราวลึกลับให้เราได้ไขปริศนาจนเราสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ มาพร้อมเกมเพลย์แบบรูปแบบฝ่าดงกระสุน และไม่มีจุดเซฟเพิ่มความท้าทายความหัวร้อนให้แก่ผู้เล่นยิ่งขึ้นไปอีก แต่เบื้องหน้าความโหดนี้ทีมงานสามารถนำเสนอกราฟิกออกมาได้อย่างสวยงาม มิหนำซ้ำยังสอดคล้องกับประสิทธิภาพและการนำฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ PS5 ออกมาใช้ได้อย่างครบถ้วน หากใครเป็นเจ้าของ PS5 และชอบความท้าทายอยู่แล้ว นี่เป็นหนึ่งในเกมที่น่าสอยมาเล่นเกมหนึ่งเลยทีเดียว Returnal นั้นสามารถเทียบชั้นกับ hades ได้เลย
9.0/10
จุดเด่น (Pro)
- เรื่องราวปูมาเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยปริศนารอให้คลี่คลายมากมาย
- เกมเพลย์สุดมันส์และท้าทายจนทำให้หัวร้อน ด้วยการตายเริ่มใหม่แบบไม่มีจุดเซฟ
- ดึงคุณสมบัติเครื่อง PS5 ออกมาใช้งานได้อย่างครบถ้วน
- กราฟิกสวยงานตระการตา
จุดสังเกต (Con)
- หากไม่อยากกลับมาจุดเริ่มต้นตอนเลิกเล่นเกมต้องเข้า Rest Mode เท่านั้น
- บรรยากาศเกมดีมาก ๆ แต่ไม่มีโหมดถ่ายภาพ
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณ โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงค์โปร
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ
