ตอนนี้โซนี่ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์ PS5 ตัวใหม่ออกมาให้ทดสอบในกลุ่มที่ได้รับเชิญแล้ว สิ่งที่น่าสนใจในเฟิร์มแวร์ตัวนี้คือมีการปลดล็อคให้ใช้งาน SSD M.2 เพื่อขยายพื้นที่การใช้งานเพิ่ม แน่นอนว่าด้วย SSD ภายในเครื่องที่ออกแบบมาเป็นพิเศษทำให้เกิดคำถามว่าหากเกมรันบน SSD M.2 จะได้ความเร็วที่เทียบเท่ากับ SSD ภายในตัวเครื่องหรือไม่? ล่าสุดทางคุณ Mike Fitzgerald ผู้กำกับฝ่ายเทคโนโลยีของ Insomniac Games ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางค่ายได้มีการทดสอบ SSD M.2 ภายในด้วยสเปกขั้นแนะนำที่โซนี่ชี้แจงกับเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ผลคือหากเปรียบเทียบความเร็วกับ SSD ของเครื่อง ‘แทบแยกไม่ออก’ ในข้อความทวิตเตอร์เขาระบุว่าดังนี้
น่าตื่นเต้นที่ผู้ทดสอบเฟิร์มแวร์ PS5 เวอร์ชั่นเบต้าได้มีโอกาสทดลอง SSD M.2! ผมแน่ใจว่าการทดสอบนี้จะส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบมากมายในเกมและยี่ห้อต่าง ๆ แต่ผมจะสปอยล์ให้ฟัง ผลจากการทดสอบในช่วงต้นที่ Insomniac บน Ratchet & Clank: มันดูดีมาก SSD M.2 Gen4 ที่เราทดสอบมีสเปกสเปกตามที่โซนี่กำหนดให้ผลลัพธ์ที่แทบจะแยกไม่ออกหากเทียบกับ SSD ภายในเครื่อง I/O ที่เหลือยังคงใช้งานอยู่ ความเร็วของมันส่งผลให้ช่วงเวลาการโหลดที่เร็วมากใน Rift Apart
จากที่ทาง Fitzgerald น่าสนใจมาก เรียกได้ว่ายิ่ง SSD M.2 ที่มีสเปกแรงและอยู่ในเกณฑ์ขั้นแนะนำตามของโซนี่ ผลคือแทบจะแยกไม่ออกระหว่าง SSD ภายในเครื่อง และเขายังเผยว่าช่วงที่ SSD ทำงานหนักที่สุดในเกม Ratchet & Clank: Rift Apart พบว่า SSD M.2 ทำงานได้ช้ากว่า SSD ภายในเครื่อง 15% เท่านั้นถือว่าไม่เลวครับ อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันต่อไปว่าโซนี่จะปล่อยให้ผู้เล่นทั่วไปใช้งานเมื่อไหร่กันแน่ แต่คาดว่าไม่น่าเกินสิ้นเดือนนี้
ข้อมูล และแหล่งข่าวจาก PlayStation LifeStyle