เกมส์: Far Cry 6
แพลตฟอร์ม : PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X|S และ PC
ราคา: 1,790 บาท (PS4 & PS5)
วันวางจำหน่าย: 07 ตุลาคม 2021
Far Cry ถือเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เรือธงของ Ubisoft และยังเป็นแฟรนไชส์ที่ขึ้นชื่อในความบ้าระห่ำของตัวร้ายในแต่ละภาค ด้วยเสน่ห์ความบ้าระห่ำ ความร้าย ความเจ้าเล่ห์ของตัวร้ายทำให้มันกลายมาเป็นจุดขายหลักของแฟรนไชส์นี้ แล้วการกลับมาของ Far Cry 6 นี้ถือว่าไม่ธรรมดา ผู้เล่นจะได้เผชิญหน้ากับเจ้าพ่อวายร้ายที่สุดของแฟรนไชส์ พร้อมลูกชายของเขาเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการต่อบนเกาะยาราของประเทศคิวบา และมันจะเป็นแผนที่ที่ใหญ่ที่สุดของแฟรนไชส์ เรื่องราวจะเข้มข้นขนาดไหนและเกมเพลย์จะมันส์มากเพียงใด เรียนเชิญอ่านรีวิวเกม Far Cry 6 – ปฏิบัติการเดินหน้าโค่นล้มทรราชแห่งยารา
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความไม่มีการสปอย์เนื้อเรื่อง และตัวระบบเกมส์บางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
Far Cry 6 ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับภาคอื่น ๆ คือวางตัวให้วายร้ายของเกมมีความโดดเด่น ซึ่งในแต่ละภาควายร้ายก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกันออกไป ในภาคนี้ทางทีมพัฒนาได้นำเสนอเรื่องราวของวายร้ายแห่งเกาะ “ยารา” ดินแดนสวรรค์เขตร้อนในทะเลแคริบเบียน แต่ภายใต้ความงามของธรรมชาติ มันเป็นสถานที่ซึ่งเหมือนหยุดห้วงเวลาเอาไว้ถึง 50 ปีหรือพูดง่าย ๆ ได้ว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง ผู้เล่นจะได้เผชิญกับจอมเผด็จการอันตอน คาสติลโญ (Antón Castillo) และ ดิเอโก (Diego) บุตรชายวัยรุ่น ซึ่งทั้งคู่รับบทโดยนักแสดงมากความสามารถ Giancarlo Esposito ผู้ที่ฝากผลงานไว้ในเรื่อง Star war: The Mandalorian, และเจ้าพ่อวายร้ายใน Breaking Bad และ Anthony Gonzalez จากเรื่อง Coco โดยคาสติลโญสาบานว่าจะพาประเทศกลับสู่เกียรติยศอย่างที่เคยเป็นผู้เล่นจะได้รับบทเป็นดานี่ โรฮาส (Dani Rojas) ชาวยาราและอดีตทหารผู้ที่ดิ้นรนเพื่อจะหนีออกจากเกาะอันเน่าเฟะแห่งนี้ไปยังอเมริกาตามความฝัน ทว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แล้วด้วยความโหดเหี้ยมของคาสติลโญเองทำให้ดานี่เปลี่ยนใจลุกขึ้นสู้กับกลุ่มปฏิวัติลิเบอร์ตาด (Libertad) นำโดย คลาร่า การ์เซีย เพื่อโค่นล้มทรราช และปลดปล่อยชาวยาราจากการปกครองเผด็จการให้จงได้เรื่องราวภาคนี้มุ่งเน้นไปที่การเมืองรูปแบบเผด็จการเป็นหลัก แต่แฝงไปด้วยปัญหาที่สะท้อนถึงโลกในปัจจุบันเช่น การเหยียดเพศทางเลือก หรือแม้แต่ปัญหาแรงงานเถื่อนเรียกได้ว่าเนื้อเรื่องเข้มข้นตั้งแต่เกมเริ่มต้นขึ้น ความน่าสนใจที่ทำให้มันต่างจากภาคก่อน ๆ คือเจ้าวายร้ายคาสติลโญ ที่มาพร้อมกับบุตรชายของเขา เอกลักษณ์คาสติลโญคือพูดเก่งมีเสน่ห์จนคนฟังคล้อยตาม ขณะเดียวกันมีความโหดร้าย ป่าเถื่อนและมีความคิดแปลก ๆ ถึงกระนั้นแลัวเขามีความเป็นพ่อ เขาทำมากกว่าแค่ก่อการร้าย เขาต้องการสร้างตำนานและต้องการสืบทอดอำนาจให้กับบุตรชายของเขานั่นเอง Diego ก็พยายามจะประทับใจพ่อของเขา แต่ในอีกแง่มุมนึงเขาก็มีนิสัยต่างจากคาสติลโญอยู่สิ้นเชิงความสัมพันธ์ของตัวละครมีความซับซ้อนตามมิติของเรื่องราว ผู้เขียนยกให้ Far Cry 6 เป็นภาคที่มีเรื่องราวน่าติดตามที่สุดรองลงมาจาก Far Cry 3 เลยก็ว่าได้ การวางพล็อตและดำเนินเรื่องถือว่ายอดเยี่ยมเอามาก ๆ ในส่วนของการบรรยายไทยของเกมนี้ก็มีถือว่าปรับปรุงขึ้นมาจากเดิมอยู่ แต่ก็ยังมีการใช้คำศัพท์แปลก ๆ ที่ยังไม่เข้ากับสถานการณ์อยู่บ้างและยังคงติดการใช้คำว่า “แก” อยู่ในหลายประโยค หากจะให้เทียบกับคำบรรยายไทยกับฝั่งโซนี่ยังถือว่าสู้ไม่ได้
เกมเพลย์
Far Cry 6 คือเกมโอเพนเวิลด์มุมมองบุคคลที่หนึ่งเหมือนกับภาคอื่น ๆ ในแฟรนไชส์ยังคงสามารถเลือกเล่นแบบลุยเดี่ยวหรือ co-op สองผู้เล่น และในภาคนี้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นระหว่างตัวละครชาย/หญิงได้ โดยไม่ว่าจะเลือกเพศใดก็จะมีเรื่องราวเดียวกัน ต่อมาหลายคนอาจจะทราบแล้วว่า Far Cry 6 มาพร้อมกับแผนที่ขนาดใหญ่มากกว่าเดิม โดยทีมงานได้เนรมิตเกาะนาราทั้งเกาะขึ้นมา ทำให้แผนที่มีลักษณะภูมิประเทศที่หลายหลายกว่าภาคอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเขตเมือง/ชุมชน ป่าดงดิบ/หุบเขา ท้องทะเลเปิด/แท่นเจาะน้ำมันกลางทะเล รวมไปถึงการควบคุมท้องฟ้าของศัตรู แน่นอนแหละว่าการต่อสู้กับเหล่าศัตรูในแต่ละพื้นที่ย่อมใช้ทักษะและอาวุธแตกต่างกันด้วยแผนที่ขนาดใหญ่นี้ทางทีมพัฒนาจึงมียานพาหนะทางเลือกหลายประเภทสำหรับผู้เล่นในการเดินทางไปทั่วโลกกว้างแห่งนี้ตั้งแต่ ขี่ม้า ขับรถถัง ขับเรือ ขับเครื่องบิน ไปจนถึงสารพัดยานพาหนะประดิษฐ์เอง ผู้เขียนกล้าพูดได้ว่าทั้งแผนที่และยานพาหนะภาคนี้ถือว่าครบเครื่องที่สุดแล้ว นอกจากนี้รถยนต์สไตล์ยุค 80s ของเรายังสามารถปรับแต่งติดอาวุธ ติดเครื่องป้องกัน หรือประดับด้วยของตกแต่งได้ด้วย แต่เรื่องการควบคุมมีข้อสังเกตคือแม้จะขึ้นยานพาหนะเกมก็ยังนำเสนอมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งบางครั้งมุมมองแบบนี้มันทำให้ควบคุมยากกว่า จุดนี้หากมุมกล้องสลับมาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 จะดีมากจุดเด่นของ Far Cry 6 ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือระบบอาวุธของเกมนี้ซึ่งอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งอาวุธเครื่องมือรีโซลเวอร์ที่มากมายอย่างคาดไม่ถึงแบบคาดไม่ถึงเลย สิ่งนี้เองทำเอาเราเองอยากจะประดิษฐ์อาวุธเองขึ้นมากับมือจากวัสดุที่หาได้ทั่วเกาะยารา ไม่ว่าจะเป็นมินิกันที่สร้างจากการใช้เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงปืนสุดกวนมาพร้อมเสียงดนตรี ตัวระบบอาวุธนี้ให้อิสระแก่ผู้เล่นในการปรับแต่งอาวุธ มันเพลินจนบางครั้งมัวแต่พยายามหาชิ้นส่วนเพื่อมาประกอบอาวุธโดยภารกิจหลักไม่ไปถึงไหน เป็นระบบที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับเกมมาก ๆไม่เพียงอาวุธประดิษฐ์ แต่อาวุธอื่น ๆ ที่มีให้เลือกในเกมก็สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับภารกิจต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเปลี่ยนชนิดกระสุน ติดลำกล้อง ติดกระบอกเก็บเสียง สิ่งเหล่านี้ผู้เล่นอาจจะต้องใช้ความคิดในการวางแผนก่อนเริ่มภารกิจทุกครั้ง นอกจากอาวุธติดมือแล้วถ้าคิดว่ายังเจ๋งไม่พอมันยังมีอาวุธสะพายหลังหลายประเภทที่เรียกว่า “Backpack surremo” อาวุธหลุดโลกหลากหลายชนิดให้สะสม ยกตัวอย่างเช่นจรวดแบบกระเป๋าเป้สะพายหลังไว้สอยเฮลิคอปเตอร์เป็นต้นหากระบบอาวุธยังไม่หนำใจ ในภาคนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการโจมตีศัตรูก็ได้ ผู้เล่นสามารถจับคู่กับคู่หูสัตว์เลี้ยงคู่ใจไม่ว่าจะเป็น ชริโซ (Chorizo) สุนัขพันธุ์วีเนอร์แสนน่ารักที่ทหารทุกคนต้องหลงรัก หรือ กัวโป (Guapo) จระเข้สัตว์เลี้ยงของฮวนที่ชอบกินเนื้อทหาร หรือแม้แต่ไก่ชน สัตว์เลี้ยงพวกนี้แหละจะช่วยเหลือเวลาเข้าบวกกับศัตรู เราเองสามารถสั่งการสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ได้ด้วยนะ และสัตว์เหล่านี้ก็สามารถอัพเกรดทักษะมันเองให้แกร่งขึ้นได้ด้วย ถามว่าไม่มีได้ไหมก็ได้นะ แต่มันช่วยเพิ่มทางเลือกในการต่อสู้กับศัตรู โดยเราอาจจะส่งสัตว์เข้าไปกวนศัตรูเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของแต่ละคนแล้วแหละ
ภารกิจหลักและภารกิจย่อยมีให้ทำมากมายอย่างไม่ขาดสาย ภารกิจหลักก็ไม่ใช่บุกกำจัดศัตรูอย่างเดียวให้น่าเบื่อ แต่มีทั้งช่วยตัวประกัน ปลอมตัวเพื่อเข้าลอบสังหาร ลอบเข้าไปแฮกระบบในฐานของศัตรู เรียกได้ว่าทีมพัฒนาได้หยิบจุดเด่นและไอเดียเกมอื่น ๆ จาก Ubisoft มาใส่รวมไว้ที่นี่ ภารกิจเสริมก็มีตั้งแต่ยึดฐานศัตรู ยึดจุดตรวจ ทำลายป้อมปืนเพื่อเคลียร์น่านฟ้า แล้วยังมีมินิเกมเพียบเลยแหละ ทั้งการตกปลา การเล่น Domino แข่งรถ และไก่ชน เออ! ยังมีล่าสัตว์อีกนะ ผู้เขียนกล้าการันตีได้เลยว่าเราคงจะได้ใช้เวลาเกมนี้ไปยาว ๆ เพราะมันมีอะไรให้ทำมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกมาก ๆ
แม้จะเป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่อันที่จริงผู้พัฒนาสามารถใส่มุมมองบุคคลที่ 3 เข้ามาได้เพราะเมื่ออยู่ภายในค่ายตัวเกมจะปรับจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งเป็นสามให้อัตโนมัติ ซึ่งถ้ามันมีออพชั่นให้ปรับมุมมองได้จะดีมากเหมาะสำหรับผู้ที่มึนกล้องในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
ทุกระบบเกมเพลย์ออกแบบมาเป็นอย่างดีและเมื่อทำงานร่วมกันแล้วมันลงตัวสุด ๆ ไปเลย แต่สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบอย่างคือการกระโดด บางครั้งหากไม่ใช่จุดที่ทีมพัฒนาตั้งไว้ให้กระโดดขึ้นไปได้นั้น ตัวละครมันจะไม่สามารถกระโดดขึ้น/ข้ามไปได้ แม้ว่าระดับความสูงจะไม่มาก และบางทีเตี้ยกว่าจุดที่สามารถกระโดดได้เสียอีก แล้วการลงน้ำบางครั้งก็ไม่สามารถกดขึ้นบริเวณขอบได้ แต่จะต้องว่ายไปจนถึงพื้นที่ราบลงไปในน้ำและเดินขึ้นมาเอง ส่วนนอกเหนือจากนั้นภาคนี้ถือว่าทำได้เยี่ยมจริง ๆ ถึงกระนั้นแล้วก็ต้องปรับปรุงเรื่องบั๊คที่ยังมีอยู่มากพอสมควรเลย
กราฟิกและประสิทธิภาพ
ด้วยความที่เกาะยาราตัดขาดจากโลกภายนอกและมีความล้าหลังถึง 50 ปีดังนั้นผู้เล่นพบทั้งของโบราณอย่างโทรศัพท์รุ่นเก่าๆ รถยุค 80s หรือของรุ่นใหม่ๆ ภายในประเทศเดียวกัน ทางทีมพัฒนาสามารถนำเสนอผ่านกราฟิกออกมาได้ดีและสวยงามมาก นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศในพื้นที่ป่าดงดิบ หรือเขตเมือง และชายหาดก็ชวนให้นึกถึงทะเลแคริบเบียนได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ระบบ Ray tracing ของเกมรองรับเฉพาะบนพีซีเท่านั้น
นอกเหนือจากกราฟิกแล้วสิ่งที่ผู้เขียนชอบคือดนตรีวิทยุในเกมซึ่งมีให้เลือก 2 คลื่นส่วนใหญ่เป็นเพลงแนวสเปน ๆ แน่นอนอย่างที่ทุกคนคิด ในเกมมีเพลง Havana ด้วยนะเจ๋งมาก ๆ และมีเพลงคุ้นหูมากมาย ถือได้ว่าทาง Ubisoft ได้ลงทุนมหาศาลกับเกมนี้ไปมากเลยทีเดียว ถัดมาคือโหมดถ่ายภาพที่มีตัวเลือกให้ผู้เล่นปรับแต่งมากมาย แต่ข้อเสียของโหมดถ่ายภาพคือมันเข้าถึงยากกว่าเกมอื่น ๆ มันต้องกด Pause และไปยังเมนูระบบอีกที แทนที่จะมีปุ่มลัดสามารถกดได้ในปุ่มเดียวประสิทธิภาพของ Far Cry 6 ซึ่งเป็นอีกเกมที่ใช้ประโยชน์ของ Adaptive trigger ของ Dual Sense แต่อาจจะไม่ได้ถึงกับสั่นหรือต้านแรงเท่าเกม First Party ของโซนี่แต่ก็ถือว่าไม่ปล่อยให้ฟีเจอร์ที่บิ้วอินมาเสียเปล่า ส่วนประสิทธิภาพเรื่องเฟรมเรตนั้นผู้เขียนรู้สึกว่ามีเฟรมเรตตกขณะเล่นเวอร์ชั่น PS5 นี่ถือเป็นเกมแรกที่ผู้เขียนรู้สึกได้ถึงการตกของเฟรมเรต เพราะฉากคัตซีนบางฉากมีการกระตุกเล็กน้อย และแม้ว่าเกมจะดึงความสามารถเทคโนโลยี SSD ของ PS5 มาใช้แต่ก็ยังมีฉากโหลดขคั่นระหว่างฉากคัตซีนและเวลาตายอยู่ ซึ่งไม่ “ไร้รอยต่อ” เหมือนเกมอื่น ๆ ของ PS5
Verdict
Far Cry 6 เรียกได้ว่าเป็นภาคที่ทะเยอทะยานมากที่สุดของแฟรนไชส์เลยก็ว่าได้ เกมมาพร้อมเรื่องราวอันเข้มข้นอันน่าติดตามของจอมเผด็จการอันตอน คาสติลโญบนเกาะยารา เรื่องราวนี้ถูกตีแผ่ผ่านเกมเพลย์สุดมันส์และท้าทายกับระบบอาวุธที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระและอาวุธใหม่ ๆ เพียบ สัตว์คู่ใจร่วมเดินหน้าต่อสู้ไปด้วยกันไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ป่าดงดิบไปจนถึงเขตเมือง ผู้เล่นจะต้องใช้การวางแผนก่อนลุยทุกครั้ง นอกจากนี้ยังมีอะไรให้ทำไม่รู้จบ แม้จะมีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นหนึ่งในเกมฟาร์ ครายที่ดีที่สุดรองลงมาจากภาค 3 เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นแล้วใครเป็นแฟนเกมนี้ไม่ควรพลาด อีกอย่างเป็นเกมฟาร์ ครายที่รองรับภาษาไทยด้วยนะ
8.5/10
จุดเด่น (Pro)
- เรื่องราวมีมิติและซับซ้อนน่าติดตามดี
- ระบบการปรับแต่งและประดิษฐ์อาวุธทำให้ติดอยู่หลายชั่วโมง
- สัตว์เลี้ยงคู่ใจเป็นทางเลือกใหม่ในการต่อสู้กับศัตรู
- กราฟิกและดนตรีสุดเจ๋ง
จุดสังเกต (Con)
- ระบบควบคุมยานพาหนะยังไม่ดีเท่าไหร่
- ไม่รองรับระบบ Ray tracing บน PS5
- ประสิทธิภาพบน PS5 ยังไม่นิ่งมีเฟรมเรตตกในบางครั้ง
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณบริษัท Ubisoft Asia
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ