โซนี่ได้เผยแพร่ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบปรมาณ 2023-2024 ของบริษัทที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน กำไรจากการดำเนินงานโดยรวมสำหรับงวดนี้ลดลง 31% เมื่อเทียบปีต่อปี จาก 364.9 พันล้านเยน (2.54 พันล้านดอลลาร์) เหลือ 253 พันล้านดอลลาร์ (1.76 พันล้านดอลลาร์) อย่างไรก็ตามรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากธุรกิจบริการเกมและเครือข่าย เพลง ถ่ายรูป และบริการทางการเงิน
โซนี่เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจเกมและเพลงจะยังคงดำเนินการไปได้ด้วยดี และได้ปรับการคาดก่รณ์เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ยอดขายและรายได้สำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2024 ขึ้น 6.1 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยอดขายที่สูงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก นอกจากนี้ยังคาดว่ารายได้สุทธิจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 2.4 เปอร์เซ็นต์ จาก 840 พันล้านเยน (5.86 พันล้านดอลลาร์) เป็น 860 พันล้าน (6 พันล้านดอลลาร์)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจเกมอย่าง PlayStation ได้ปรับการคาดการณ์เนื่องจากคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเกม 3 rd Party และคอนเทนต์เสริมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเกมที่ชาว PlayStation รอคอยมามากมายในปีนี้ เช่น Spider-Man 2, Assassin’s Creed Mirage, Cyberpunk 2077: Phantom Liberty Expansion, Avatar: Frontiers of Pandora และ EA Sports FC
ด้วยเกมเหล่านี้กับราคา PS5 ที่โซนี่ปรับลงในบางภูมิภาคนั้นทำให้ผู้คนสนใจซื้อเครื่อง PS5 มากขึ้น และจะส่งผลดีต่อยอดขายเกมที่จะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ในไตรมาสแรกนี้โซนี่สามารถขาย PS5 ออกไปได้ 3.3 ล้านเครื่อง ซึ่งน้อยกว่าไตรมาสก่อนที่ขายออกไปได้ถึง 6.4 ล้านเครื่อง ปัจจัยสำคัญคือไตรมาสที่แล้วเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ทำให้ตัวเลขอาจจะสูงมากกว่าปกติ ปัจจุบันโซนี่ส่ง PS5 ไปขายแล้วมากกว่า 41.7 ล้านเครื่องครับ
แหล่งข่าว และขอบคุณภาพจาก engadget