เกม: ไรส์ออฟเดอะโรนิน
แพลตฟอร์ม : PS5
ภาษา: ไทย/อังกฤษ/ญี่ปุ่น
ราคา: 2,290 บาท
วันวางจำหน่าย: 22 มีนาคม 2024
Rise of the Ronin ผลงานเกมชิ้นใหม่ของ Team Ninja ผู้ที่เคยฝากผลงานเกมดังมากมาย อาทิ Wo Long: Fallen Dynasty, Nioh และอีกมากมาย พวกเขาได้ฉีกกรอบตนเองจากความถนัดเรื่องแนวประวัติศาสตร์แฟนตาซี มาในครั้งนี้มุ่งเน้นประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์จริงและเส้นเรื่องแบบมีมิติ ความพยายามของพวกเขาในครั้งนี้มันจะสมการรอคอยหรือไม่? เรียนเชิญทุกท่านหาคำตอบได้กับรีวิวเต็มเกม Rise of the Ronin – ตำนานของโรนินไร้นามที่สมแก่การรอคอย
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความที่ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง รวมถึงตัวระบบเกมบางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวในเกม Rise of the Ronin เป็นเหตุการณ์ในยุคที่เรียกกันว่า “บากูมัตสึ” (ค.ศ. 1863) เป็นยุคแห่งจุดจบของการปกครองแบบโชกุนพร้อมกับการเกิดใหม่ของยุคใหม่ที่ประเทศฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้เข้าปะทะกัน เหตุการณ์ตึงเครียดและยุ่งเหยิงแบบสุดๆ นอกจากนั้นยังเป็นยุคมืดของซามุไร บ้างก็ฆ่าตัวตาย บ้างก็สูญเสียอาจารย์ และบ้างเลือกจะหลบหนีปะปนกลับเป็นสามัญชนทั่วไป ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น “โรนิน” ซามุไรไร้อาจารย์ ผู้สร้างเส้นทางเดินของตนเอง และผู้กุมชะตาของญี่ปุ่นไว้ในมือของเขา
เนื้อเรื่องเกมนี้ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่สร้างความแตกต่างจากเกมในสายเดียวกันอย่าง Ghost of Tsushima ไปอย่างสิ้นเชิง คือ เส้นเรื่องที่ทับซ้อนผูกปมไว้มากมาย ทุกการตัดสินใจมีผลต่อเนื้อเรื่องและอาจส่งผลทำให้ตัวละครบางตัวเสียชีวิตไปได้เลย โดยปกติในเกมส่วนใหญ่บางครั้งเรามักจะกดข้ามบทพูดระหว่างตัวละครไป ทว่าในเกมนี้มันแทบจะกดข้ามอะไรไม่ได้เลยเพราะทุกบทพูดมันเกี่ยวโยงกันหมด การข้ามแม้แต่ Dialogue เดียวอาจทำให้เราหลุดและไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจแบบไหนก็ตาม สุดท้ายมันเชื่อมโยงกันหมด และผลที่ตามมาบางครั้งทำให้รู้สึกว่า “เออรู้งี้เลือกอีกอันดีดว่า”
บางครั้งผู้เขียนลังเลอยู่นานมากนะ ตัวเกมมีระบบช่วยประกอบการตัดสินใจเราด้วยนะ เช่น เข้าไปอ่านรายละเอียดตัวละคร หรือมีแม้กระทั่งสถิติผู้เล่นคนอื่น ๆ บอกเลยว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกอะไร ด้วยระบบการตัดสินใจ (Decision) ผนวกกับเรื่องราวซับซ้อนทำให้ตัวเรื่องราวมีมิติมาก ๆ และผู้เขียนบอกไ้ด้เลยไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมงเล่นกันยาว ๆ ตัวละครก็มีเพียบอย่างกับดูสามก๊ก งงว่าใครเป็นใคร ความสัมพันธ์เชื่อมกันเป็นใยแมงมุมเลยก็ว่าได้ ใครชอบเรื่ิองราวซับซ้อน ปมเยอะ ๆ ไม่ควรพลาด
ก่อนจะไปเกมเพลย์มาพูดถึงการแปลภาษาในเกมกันก่อน Rise of the Ronin นั้นรองรับการบรรยายภาษาไทยด้วย อย่างแรกเลยที่ต้องชมคือตัวอักษรภาษาไทยใหญ่ชัดเจนดีมาก ฟอนต์ที่เลือกใช้อ่านง่ายดูสะอาด และการแปลค่อนข้างดีและภาษาสวยเหมาะกับยุค ต้องย้ำว่าเกมนี้ต้องอาศัยความเข้าใจเนื้อเรื่องจริง ๆ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ การที่เกมรองรับภาษาไทยมันจึงเป็นอะไรที่เพิ่มอรรถรสได้แบบทวีคูณ
เกมเพลย์
Rise of the Ronin นำเสนอเกมสไตล์แอ็คชั่น RPG รูปแบบโอเพ่นเวิลด์ที่มีโลกกว้างขวางมากในยุคเอโดะของญี่ปุ่น ผู้เล่นจะได้ไปเยือนเมืองและสถานที่สำคัญ ๆ ของญี่ปุ่น เช่น วัดเซ็นโซจิ เป็นต้น คือนอกจากเนื้อเรื่องเข้มข้นแล้วใครชอบสำรวจด้วยนะฟินมากๆ ด้วยความที่เหตุการณ์มันอยู่ในช่วงเหล่าประเทศฝั่งตะวันตกเข้ามามีอิทธิพล ทำให้นอกจากอาวุธประชิดอย่าง ดาบและหอก ยังมีอาวุธสมัยใหม่อาทิ ปืน ดาบปลายปืน และยังมีสิ่งประดิษฐ์อย่างปืนไฟ เชือกจับ เป็นต้น อาวุธหลากหลายเช่นนี้ทำให้การเข้าจู่โจมศัตรูมีความหลากหลาย มีความอิสระ และสามารถออกแบบกลยุทธ์การต่อสู้ของตัวเองได้ เช่นโจมตีระยะไกลด้วยปืนหรือธนู ใช้ดาบซามุไรฟันระยะประชิด หรือการปาระเบิดยาชาให้ศัตรูสตั๊นก่อนเข้าโจมตี
ถึงแม้ว่าตัวเกมจะมีตัวเลือกอันหลากหลายกรรมวิธีเพื่อเข้าโจมตีศัตรู แต่ท้ายสุดแล้วเวลาเข้าต่อสู้ระยะประชิดจริงมันก็ต้องใช้ดาบ หรือหอกนั่นแหละ แล้วหากว่าใครเคยสัมผัสเกมก่อน ๆ ของ Team Ninja มาคงเดาได้ การจะเอาชนะศัตรูนั้นปัจจัยสำคัญเลยคือการ “ปัดป้อง” ให้สัมพันธ์กับจังหวะเวลา เมื่อเราปัดป้องได้ตรงจังหวะเกจพลังต้านของศัตรูจะเริ่มลดลงจนกระทั่งอ่อนแอ และเราอาศัยจังหวะนี้เองแทงเข้าไปยังจุดอ่อนของศัตรู ทางกลับกันหากเกจพลังของเราเองหมดไปเราก็จะต้านไ่ม่ไหว และจะไม่สามารถโจมตีใส่ศัตรูได้จนกว่าเกจพลังจะ Cool down
การปัดป้องให้ถูกจังหวะการโจมตีของศัตรูคือหัวใจหลักในการเอาชนะศัตรูก็จริง ทว่าการจะเอาชนะศัตรูที่แข็งเกร่งได้นั้นมันต้องอาศัยรูปแบบการต่อสู้ด้วย สามารถติดตั้งกับตัวได้สูงสุด 3 แบบแก่ จิ (ดิน), เท็น (ท้องฟ้า) และจิน (มนุษย์) แน่นอนตัวเกมยังมีรูปแบบการต่อสู้ย่อยให้เลือกมาติดตั้งใน 3 ช่องนี้อีก ระบบจะแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ลูกศรขึ้นหรือลงบริเวณพลังชีวิตของศัตรูเพื่อให้เราทราบว่ารูปแบบการเล่นที่เลือกอยู่นั้นเหมาะสมไหม ถ้าแสดงลูกศรลงแสดงว่าเหมาะแล้ว ถ้าแสดงลูกศรขึ้นไม่เหมาะ
การผสมผสานระหว่างการต่อสู้ระยะประชิดและอาวุธระยะไกล สิ่งนี้แหละที่ต่างจาก Ghost of Tsushima ที่มุ่งเน้นการต่อสู้แบบซามุไรแบบสมจริง ทางกลับกันใน Rise of the Ronin ผู้เล่นผสมผสานการเล่นได้ อย่างเช่นฟันศัตรู แล้วกดชักปืนขึ้นมายิงทันทีก็ได้นะ หรือจะเป็นการตวัดเชือกไปเกี่ยวสิ่งของโยนใส่ศัตรู หรือการปาดาวกระจายใส่ก่อนเข้าโจมตี เกมเปิดอิสระให้ผู้เล่นได้ใช้ทรัพยากรเพื่อใช้ในการต่อสู้ได้เต็มที่
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เสียคะแนนคือระบบลอบเร้นซึ่งทำได้ระดับนึงแต่ไม่ค่อย work พุ่มไม้ที่ไว้หลบซ่อนตัวแทบไม่มี มิหนำซ้ำศัตรูบางครั้งไม่ฉลาดด้วยนะอยู่ใกล้มากๆ บางทีไม่เห็นนะ หรือบางครั้งการแอบโจมตีจากด้านบนก็ยังทำระบบไม่ค่อยดี โดนเป้าหมายบ้าง แต่ส่วนมากกจะไม่เข้าเป้า
การทำภารกิจ หากเป็นภารกิจเส้นเรื่องหลักฟีเจอร์อันโดดเด่นของเกมนี้เลยคือ Co-Op ร่วมเล่นกับผู้เล่นคนอื่นได้สูงสุด 4 คน (ขึ้นอยู่กับภารกิจ) ฟินแน่นอนยิ่งถ้าเล่นกับเพื่อนนะตะลุยเล่นไปด้วยกันฟินแน่นอน หรือถ้าใครจะเล่นเดี่ยวก็เลือก NPC ตัวละครที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วยมาช่วยในภารกิจได้
ความหลากหลายของภารกิจในเกมอาจจะไม่เยอะมากเช่น การเคลียร์พื้นที่ที่มีศัตรูอยู่ การเปิดแผนที่สำรวจสถานที่ต่าง ๆ การถ่ายภาพ การแวะไหว้พระ การเล่นกับแมว และการปัดธง ทั้งหมดที่กล่าวมามันจะกระจายอยู่ในเขตต่าง ๆ เมื่อเคลียร์ครบก็จะเป็นการเคลียร์ความสงบในเขตนั้น ๆ ได้ 100% เราก็ทำจนครบทุกเขต แต่อย่างที่บอกแผนที่ใหญ่มากดังนั้นการเก็บให้ครบทุกเม็ดใช้เวลา พวกนี้คือภารกิจรูทีน มันจะมีภารกิจความสัมพันธ์ของตัวละครต่าง ๆ อีกนะ ระบบความสัมพันธ์นี่เองทำให้ตัวเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ซับซ้อนขึ้น
ระบบความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับเนื้อเรื่อง มันมีไปจนถึงเลเวลความสัมพันธ์กับตัวละครแต่ละคนเลย อย่างที่ผู้เขียนเกริ่นไปขั้นต้นตัวละครในเกมเยอะมาก และมันก็จะมีภารกิจขอความช่วยเหลือตัวละครต่าง ๆ หากทำเสร็จเลเวลความสัมพันธ์ก็จะเพิ่มขึ้น พร้อมได้รับไอเท็มต่าง ๆ เพื่อนำไปอัปเกรดต่อ บางครั้งตัวระบบมันผูกเยอะไปจนถึงจุดที่บางภารกิจเสริมอาจทำไม่ได้เพราะเลเวลความสัมพันธ์กับตัวละครที่จะร่วมในภารกิจไม่ถึง (โดยเฉพาะจะอัปเกรดสิ่งประดิษฐ์) เราก็ต้องคอยกลับไปเล่นภารกิจของตัวละครตัวนั้นเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ และพวกนี้ต้องวางแผนดี ๆ เพราะภารกิจความสัมพันธ์บางภารกิจทำย้อนไม่ได้เพราะตัวละครอาจตายระหว่างทาง (เนื่องด้วยมาจากการตัดสินใจของเรา) ดังนั้นเกมนี้ต้องเล่นมากกว่า 1 รอบแน่ ๆ นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแล้ว ยังมีความสัมพันธ์กับฝ่ายที่เราสนับสนุนด้วยนะ บางทีก็รู้สึกนิดนึงว่าซับซ้อนไปไหน
ทุกครั้งที่ทำภารกิจสำเร็จเราก็จะได้รับค่าประสบการณ์ซึ่งจะอัปเลเวลสูงสุดคือ 55 นอกจากนี้จะมีไอเท็มให้เก็บ ให้ซื้อ และให้อัปเกรด รวมถึงชุดต่าง ๆ ที่แยกออกเป็นส่วน เช่นชุด รองเท้า เกราะมือ หมวก เป็นต้น อาวุธและเครื่องแต่งกายทุกชิ้นมีค่าพลังและมีความสามารถในตัว ยิ่งอันที่หายากก็จะมีความสามารถมาก ความสามารถนี้สามารถโอนย้ายจากไอเท็มชิ้นนึงไปยังอีกชิ้นได้ด้วยนะ (ต้องใช้ไอเท็มบางอย่างในการโอนย้าย) เงินในเกมส่วนใหญ่หมดไปกับการใช้อัปเกรดมากกว่า อาวุธสามารถหาได้จากการทำภารกิจ ส่วนพวกกระสุน ยา หรือพวกลูกธนู สามารถเก็บสะสมส่วนประกอบมาสร้างเพื่อคราฟท์ได้ ตรงนี้ผู้เขียนว่ายังไม่ค่อยสมดุลเสียเท่าไหร่ อาวุธหรือไอเท็มที่ขายยังไม่ค่อยดึงดูดพอให้เสียเงินซื้อจนรู้สึกว่าไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร หรือแม้แต่ไอเท็มแรร์ที่เก็บได้ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันหายาก และไม่ได้สมกับเวลาที่เสียไป
ทักษะต่าง ๆ มีให้เลือกอัปเกรดถึง 4 ประเภท ซึ่งแต้มทักษะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ แต้มทักษะทั่วไปและแต้มทักษะเฉพาะแต่ละประเภท แต้มทักษะทั่วไปหาง่ายจากการทำภารกิจหรือเวลาอัปเกรดเลเวล แต่แต้มทักษะเฉพาะแต่ละประเภทมันจะได้มาจากการทำภารกิจเจาะจงถึงจะคว้าแต้มมาได้ เช่นพวกภารกิจเสริมที่ต้องทำให้สำเร็จระหว่างทำภารกิจหลัก เอาเป็นว่าถ้าจะเก็บให้ครบทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมง แต่ถ้าจะเอาแค่แข็งแกร่ง เอาแค่ใช้เคลียร์เกม หลายทักษะในนั้นแทบไม่มีความจำเป็น
โดยรวมแล้วเกมเพลย์สนุกและเพลินมากจนไม่อยากวางจอย ความยากของเกมก็ปรับแต่งได้ทำให้ไม่หัวร้อนเท่าเกมก่อน ๆ ของ Team Ninja จะมีติดแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้เขียนมองว่ามันเยอะเกินจนซับซ้อนโดยใช่เหตุ หรือมากเกินจนไม่ค่อยสมดุล
กราฟิก
สำหรับงานภาพของเกม Rise of the Ronin นั้นผู้เขียนคิดว่าพอใช้ได้นะ แต่อาจจะยังสู้เกมทางฝั่งค่าย First Party จริง ๆ ของ PlayStation Studio ไม่ได้ หากเอา Ghost of Tsushima มาสู้ผลคือ Ghost กินขาดเลยครับ (แม้ว่าเกมจะพัฒนาลงบน PS4 เป็นหลักด้วยนะ) งานภาพบริเวณพื้นผิวต่าง ๆ ทั้งในฉากและตัวละครยังไม่ละเอียดเสียเท่าไหร่ สีผิวของตัวละครและฉากบางครั้งดูลอย ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเงาและแสงอาจจะทำไม่สมจริงมากพอ
ถึงแม้กราฟิกอาจจะยังไม่เข้าขั้น แต่ถ้าพูดถึงบรรยากาศ Rise of the Ronin เอาไปเต็มสิบเลยครับ เกมนำเสนอเมืองในยุคเอโดะออกมาได้ดี มีการใส่สถานที่และเมืองสำคัญ ๆ เข้ามาจนรู้สึกถึง soft power และทำให้อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น พื้นที่ต่าง ๆ มีการใส่รายละเอียดเข้ามาอัดแน่นไม่ดูโล่ง และมีชีวิตชีวา
ทางด้านประสิทธิภาพของเกมนั้นบางครั้งรู้สึกถึงเฟรมเรตดรอปลง และองค์ประกอบโหลดไม่ทันบ้างเมื่อขี่ม้าเร็ว ๆ และยังมีบั๊กมากพอสมควร ซึ่งคิดว่าจะมีอัปเดตออกมาแก้ไขในภายหลัง
Verdict
ทีแรกผมพูดตรง ๆ เลยว่ากลัวเกมนี้ไปทับไลน์กับ Ghost of Tsushima แต่ทว่าทาง Team Ninja สามารถพัฒนาให้ Rise of the Ronin มีเอกลักษณ์ของตนเองกับเรื่องราวที่ซับซ้อน และแปรผันได้ทุกเมื่อจากการตัดสินใจของเรา มาพร้อมกับเกมเพลย์ที่ระบบการต่อสู้หลากหลายและค่อนข้างอิสระ ผนวกโลกอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยภารกิจให้ทำมากมาย และยังสามารถเล่นกับเพื่อนได้สูงสุดถึง 4 คนด้วย หากใครมองหาเกมสไตล์แอ็คชั่น RPG ไว้เล่นยาว ๆ เพลิน ๆ ผู้เขียนบอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดเกมนี้เด็ดขาด
8.7/10
จุดเด่น (Pro)
- เรื่องราวน่าติดตาม และซับซ้อน
- การตัดสินใจของผู้เล่นมีผลต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเกม
- ระบบต่อสู้มีความอิสระและอาวุธครบครัน
- บรรยากาศในเกมดีเยี่ยม
จุดสังเกต (Con)
- ระบบความสัมพันธ์ทำให้บางครั้งรู้สึกซับซ้อนจนเกินไป
- ไอเท็มเป็นขยะซะส่วนใหญ่ ไม่คุ้มเหนื่อยที่จะเก็บ
- ระบบเลอบเร้นออกแบบมาไม่สุด
- กราฟิกยังมีช่องให้พัฒนาอีกเยอะ
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณบริษัท PlayStation Asia
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ