เกม: ไรส์ออฟเดอะโรนิน
แพลตฟอร์ม : PS5
ภาษา: ไทย/อังกฤษ/ญี่ปุ่น
ราคา: 2,290 บาท
วันวางจำหน่าย: 26 เมษายน 2024
Stellar Blade เป็นหนึ่งเกมที่อาจจะถูกลืมหรือหายไปจากกระแสช่วงนี้บ้าง แต่จริงๆ แล้วเกมน่าสนใจไม่น้อยเลย แถมรองรับภาษาไทยด้วยนะ เกมนี้เป็นผลงานการพัฒนาเกมของค่าย Shift Up ค่ายพัฒนาเกมสัญชาติเกาหลีใต้ที่โด่งดังมาจากเกมมือถือและในที่สุดพวกเขาก็ไต่เต้าจนสามารถพัฒนาเกมระดับ AAA เกมแรกออกมาได้ โดยมีโซนี่ร่วมมือและทำตลาดให้ ในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัสเดโมเกม Stellar Blade ก่อนที่จะปล่อยให้ทุกคนลองเล่นในวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนั้นผู้เขียนจะมาเผยความรู้สึกหลังลองเล่นมาแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเกมนี้ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
เนื้อเรื่อง
Stellar Blade เล่าเรื่องเหตุการณ์ถึงโลกอันล่มสลายและถูกทำลายอย่างราบคาบด้วยฝีมือสื่งมีชีวิตประหลาดที่ทรงพลังนามว่า “เนติบา” เหล่ามนุษย์ที่เหลือรอดอยู่ต่างได้หนีออกจากโลกด้วยยานอวกาศเพื่อไปตั้งรกรากบนโคโลนี จากนั้นได้มีการก่อตั้งหน่วยพิเศษเพื่อเดินทางกลับมายังโลกในการช่วยมนุษยชาติกอบกู้โลกคืนมาให้จงได้
ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นอีฟ นักรบสาวสุดเซ็กซี่และเป็นหนึ่งในสมาชิกหน่วยพลร่มที่ 7 เธอได้รับมอบหมายมาให้ช่วยผู้คนที่ตกค้างอยู่บนโลก ทว่ายิ่งอีฟได้ปะทะกับเนติบาตัวแล้วตัวเล่า เริ่มปะติดปะต่อปริศนาเกี่ยวกับอดีตจากเศษซากอารยธรรมของมนุษย์แล้ว เธอก็ตระหนักได้ว่าภารกิจของเธอมีอะไรมากกว่านั้น เมื่อความเป็นจริงทุกอย่างกลับไม่เหมือนดั่งตาเห็น…
ในเดโมเราจะได้เล่นบทเปิดของเกม โดยเกมมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากพูดตามตรงเลยคือผู้เขียนไม่เคยได้ยินเกมนี้มาก่อน แต่หลังจากลองเล่นคือเรื่องราวน่าติดตามไม่เลวเลย ชอบตรงที่ทีมงานใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สะท้อนออกมาให้เห็น ยกตัวอย่างเช่น ตัวอีฟเองเกิดบนโคโลนี ทำให้สิ่งของบางอย่างบนโลกเธอจึงไม่เคยเห็นเช่น เปียโน เป็นต้น
ความน่าสนใจอีกอย่างคือมีภาษาไทยในเกม เบื้องต้นคือแปลได้โอเคตามมาตรฐานแต่ตัวหนังสือแอบเล็กนิดหน่อย แต่โดยรวมเซอร์ไพรส์พอสมควร ชอบเนื้อเรื่องแม้จะแค่ต้นเกมแต่ก็มีดราม่าทำให้เกิดแรงจูงใจจนอยากไปเล่นเกมเต็มที่จะวางจำหน่ายในเดือนหน้า
เกมเพลย์
Stellar Blade เป็นเกมแอ็กชั่นผจญภัยมุมมองบุคคลที่ 3 เน้นการโจมตีระยะประชิดและการปัดป้องเป็นคีย์หลักในการเอาชนะศัตรู แม้ว่าจะเน้นการโจมตีระยะใกล้แต่อันที่จริงตัวระบบก็มีอาวุธระยะไกลและพวกระเบิดด้วยนะ อย่างไรก็ตามในเดโมไม่มีให้เล่นเพราะฉะนั้นผู้เขียนจะพูดถึงการโจมตีโดยดาบที่มีให้เล่นในเดโม อย่างที่กล่าวไปการโจมตีที่สร้างความเสียหายมากที่สุดให้แก่ศัตรูคือจังหวะการปัดป้อง หากปัดป้องได้ถูกจังหวะเราจะได้คริติคอลฟันทะลุเกราะศัตรูไปได้ การโจมตีจะกดปุ่มสี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยมคือการโจมตีหนักสลับกันไป มีท่าคอมโบอยู่หลากหลายท่า ด้วยความที่เป็นเกมแอ็กชั่นจังหวะการเข้าโจมตีจึงค่อนข้างรวดเร็ว แต่ด้วยความที่ยังไม่เห็นอาวุธอื่น ๆ เลยยังบอกไม่ได้เต็มปากว่าหากผสมผสานการใช้ระเบิด บวกกับอาวุธระยะไกลแล้วมันจะออกมาสมดุลไหม ตรงนี้อาจจะต้องรอติดตามในเกมหลัก แต่หากพูดแค่ในเดโมนี้โดยรวมระบบต่อสู้ออกมาใช้ได้อยู่
มาถึงองค์ประกอบโดยรวมกันบ้าง สิ่งที่ติดใจคือเวลาฆ่าศัตรูเสร็จของที่ดรอปไม่ว่าจะเป็นไอเท็มหรือเงินก็ตาม ผู้เล่นจะต้องกดปุ่มเก็บเอง ตัวเกมไม่ออโต้เก็บให้นะ จริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงศัตรูไม่ว่าจะไปเปิดหีบที่พบเจอก็ต้องกดเก็บของเอง แรก ๆ คือไม่ชินเลย แล้วไม่ใช่ว่ากดครั้งเดียวเก็บทุกชิ้นนะ แต่มันคือกดหนึ่งครั้งต่อชิ้น นอกจากนั้นยังมีให้เก็บรหัสเปิดหีบตรงนี้ก็เหมือนเกมอื่นแหละ แต่พอถึงหีบแล้วต้องมาใส่รหัสซ้ำโดยต้องกดคีย์ลงไปเอง รหัสนี้ไม่ใช่ตัวเลขแต่มันเหมือนตัวอักษรภาษารัสเซีย!! ยังดีที่ระบบเกมมีให้กดดูคำใบ้ แต่อันที่จริงถ้าจะให้มันง่ายและให้ความรู้สึกไร้รอยต่อระบบควรใส่รหัสให้เลย ไม่ก็ให้รหัสเป็นตัวเลขไปเลย
ต่อมาการนำทางและแผนที่ในเกม ซึ่งแม้ว่าเกมจะไม่ใช่โลกเปิดแต่แผนที่รวมถึงบรรยากาศไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดและพื้นที่โดยรวมให้สำรวจ ทว่าการนำทางค่อนข้างสับสน มีความรู้สึกบางครั้งว่าต้องไปตรงไหนต่อ หลาย ๆ ครั้งต้องเดาเอง ถึงจะมีไอคอนคอยไกด์เราก็เถอะ บางครั้งก็ต้องฟังจากที่ตัวละครพูดออกมา
เมื่อเราผจญภัยไปเรื่อย ๆ ตัวเกมจะมีจุดเซฟเป็นระยะ ๆ จุดเซฟนี้ก็จะมีที่ให้นั่งพักเพื่อ restore ค่าพลังต่าง ๆ และเป็นจุดที่ผู้เล่นสามารถซื้ออาวุธ เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย หรืออัปเกรดทักษะต่าง ๆ มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้เราเปิดเพลงและเปลี่ยนเพลงได้ด้วยนะ จุดเซฟนี้ติดอย่างเดียวคือการอัปเกรดทักษะ ต่างจากเกมอื่นที่เราจะสามารถอัปเกรดทักษะตอนไหนก็ได้ขอให้เพียงแต่มีคะแนนทักษะเพียงพอ เแต่กมนี้ไม่ได้ครับ (รวมไปถึงการอัปเกรดอาวุธด้วยนะ) จะทำได้ก็ต่อเมื่อกดอัปเกรดในจุดเซฟเท่านั้น เป็นอีกครั้งที่ทำให้เกมมันสะดุดมันไม่ลื่นไหลด้วยเงื่อนไขที่จุกจิกเกินไป
หากขจัดข้อจำกัดนี้ออกไปเกมเพลย์และบรรยากาศเกมนี้ถือว่าไม่เลว และผู้เขียนเล่นเพลินจนรู้สึกตัวอีกทีคือมันจบเดโมไปแล้ว ก็คงต้องมารอดูเกมเต็มกันอีกครั้งว่าองค์ประกอบที่เหลือ ๆ และยังไม่ได้สัมผัสนั้นมันจะดึงดูดความสนใจได้มากน้อยขนาดไหน
กราฟิก
สำหรับงานภาพเกมนี้เบื้องต้นคือภาพสวยใช้ได้เลย ผู้เขียนเชื่อว่าหนุ่มๆ ทุกคนจะหลงใหลกับตัวละครเอกสุดเซ็กซี่ ทั้งรูปร่าง ชุดและน้ำเสียง ส่วนฉากต่าง ๆ และแสงในเกมทำออกมาใช้ได้ต้องบอกว่าอย่างไรดี ภาพสวยนะแต่เทียบเท่าเกม 1st Party ไม่ได้ แต่ด้วยต้นทุนการสร้างที่ไม่ได้สูงมากทำออกมาขนาดนี้ถือว่าโอเคมาก ๆ แล้ว
สรุป
โดยรวมแล้วหลังสัมผัสเดโมถือว่า Stellar Blade ทำได้ไม่เลวเลย เนื้อเรื่องน่าติดตาม ระบบการต่อสู้ดูดีและมันส์มาก แต่อาจจะมีข้อสังเกตบางอย่างแบบ “เอ๊ะๆ” แต่ถ้าไม่คิดมากมันเป็นเกมที่ถ้าหากผู้ใดชอบแนวตัวละครเอกเซ็กซี่ ๆ ตะลุยไปในโลกแฟนตาซีฟันเลือดสาดแล้วละก็ผู้เขียนคิดว่าน่าจะชอบครับ อย่างไรก็ตามอย่าลืมไปลองเล่นเดโมกันได้ฟรี ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เกมจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 29 เมษายนนี้ เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ PS5 เท่านั้น
พรีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณบริษัท PlayStation Asia
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ