เกม: Astrobot
แพลตฟอร์ม : PS5
ภาษา: อังกฤษ และไทย
ราคา: 1,990 บาท
วันวางจำหน่าย: 06 กันยายน 2024
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของ Astrobot เรียบง่ายมาก ๆ มันเริ่มต้นด้วยยานแม่ PlayStation 5 โดนเอเลี่ยนทำลาย จนตกลงบนดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง ยาน PS5 พังย่อยยับ ทำให้ Astro และบ็อตลูกเรือทั้งหลายต้องกระจัดกระจายไปทั่วกาแล็กซี เราจะได้รับบทเป็น Astro มาพร้อมกับ Dual Speeder คู่ใจเพื่อใช้สำรวจดาวเคราะห์กว่า 50 ดวงในการรวบรวมชิ้นส่วนต่าง ๆ ของยานมาซ่อม และช่วยบ็อตลูกเรือทั้ง 300 ชีวิตให้จงได้
ตัวเรื่องราวไม่มีการบรรยายเป็นคำพูดนะ ผู้เล่นรับรู้เรื่องราวผ่านภาพแอนิเมชั่นให้อารมณ์เหมือนดูมินเนี่ยน เรื่องราวไม่ได้จริงจังเน้นน่ารัก เน้นฮา เพลิน ๆ ความที่เกมไม่มีบทพูดเลย ดังนั้นที่เกมรองรับภาษาไทยคือเป็นพวกเมนู และภาษาบนจอ ถึงแม้จะไม่ได้มีบทพูดอะไร แต่การ Localization ภาษารอบนี้ทำได้ดีมาก ขนาดตัวอักษรใหญ่เห็นได้ชัดเจน มีใช้รูปแบบฟอนต์น่ารักสอดคล้องกับตัวเกม ซึ่งหวังว่าเราจะได้เห็นลักษณะ Localization แบบนี้ในเกมอื่น ๆ ของโซนี่
เกมเพลย์
รูปแบบการเล่นเหมือนกับ Astrobot The Playroom เป๊ะ ตัวเกมนำเสนอสไตล์แอ็คชั่น มุมมองบุคคลที่ 3 ตะลุยไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่ในกาแล็กซี่ต่าง ๆ ของจักรวาล รวมแล้วมีมากกว่า 80 ด่าน และมีศัตรูมากกว่า 70 ชนิด ศัตรูแต่ละชนิดก็จะแฝงตัวอยู่ตามสภาพแวดล้อมของดาวเคราะห์แต่ละดวง เรียกได้ว่าเต็มอิ่มจุใจแบบไม่มีกัก
ด้วยความที่ตัวเกมเพลย์เหมือนเดิม แต่ในบางด่านก็มีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจ ไม่เพียงเท่านี้ทางผู้พัฒนายังได้เพิ่มอุปกรณ์วิเศษไว้ช่วย Astro ในการสำรวจดาวเคราะห์และต่อสู้กับศัตรู อุปกรณ์วิเศษในแต่ละดาวเคราะห์อาจจะแตกต่างกันไปได้ อุปกรณ์ที่เราอาจจะเคยเห็นมาแล้วก็มีลิงปีนป่าย มันจะช่วยให้ Astro ปีนป่ายสูงชันและต่อสู้กับศัตรูตัวมหึมา นอกจากนี้ยังมีถุงมือกบ บาร์กสเตอร์ บูลด็อกบูสเตอร์ เครื่องหยุดเวลา เป็นต้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุปกรณ์วิเศษที่มีให้เราได้สัมผัส แต่ละดาวก็จะมีอุปกรณ์วิเศษให้ใช้แตกต่างกันไป เพื่อความสมดุลของเกม ทำให้เราไม่อาจจะเก็บอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ใช้ในด่านอื่น ๆ ได้ ถึงกระนั้นแล้วทีมงานได้เตรียมเซอร์ไพรส์ให้เราไว้แล้ว บอกเลยว่าชาวเพลย์สเตชั่นใจฟูแน่นอน
มาพูดถึงความยากของเกมบ้าง ความที่เป็นเกมเต็มหากเทียบกับ Astrobot The Playroom ทำให้เกมมีขนาดใหญ่มากกว่า 4 เท่า แต่ละกาแล็กซี่ แต่ละด่านมีธีมแตกต่างกันไป และแน่นอนมีบอสใหญ่ของแต่ละกาแล็กซี่ อันที่จริงการตะลุยไปด่านต่าง ๆ ไม่ได้ยาก แต่มันจะมายากตรงด่านที่เป็นสะเก็ดดาวของปุ่ม PlayStation ผู้เขียนบอกเลยว่าทำให้หัวร้อนกันได้ง่าย ๆ เลยแหละ
นอกจากภารกิจตามหาน้องบ็อต และชิ้นส่วนยาน PS5 ให้ครบแล้ว ยังมีชิ้นส่วนจิ๊กซอว์และเหรียญมาแลกของรางวัลน่ารัก ๆ ในเกม ซึ่งคอนเซ็ปต์คล้ายกับ Astrobot The Playroom ทำให้ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แม้เกมเพลย์ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ความสนุกองค์รวมของเกม เกมนำเสนอได้เพลิดเพลินมาก เหมือนเป็นการพักสมองกับเกมยาก ๆ มาเล่นเกมนี้ ทั้งสนุก น่ารัก ทยอยช่วยเหล่าน้องบ็อตจนครบ ทำเอาหยุดเล่นไม่ได้เลย และมันคงคิดเป็นอย่างแอื่นไปไม่ได้ นอกจากมันคือเกม Astrobot The Playroom ฉบับเต็ม
กราฟิกและประสิทธิภาพ
ในส่วนงานภาพของเกมนี้บอกได้เลยเต็มไปด้วยความน่ารักและสีสันสดใส สิ่งที่ผู้เขียนชอบเอามาก ๆ เลยคือสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันออกกันในแต่ละดาวน์เคราะห์ มีตั้งแต่ ทะเลทราย ป่าเขียวขจี ไปจนถึงหุบเขาหิมะอันหนาวเหน็บ ไม่ว่าจะธีมไหนทางผู้พัฒนาก็ออกแบบงานภาพออกมาได้สดใสน่ารักเอามาก ๆ รวมถึงงานแสงในเกมก็ออกมาไร้ที่ติเช่นกัน
นอกจากนี้โหมดถ่ายภาพก็น่ารัก แม้ฟังก์ชั่นถ่ายภาพจะไม่ได้มีอะไรให้ปรับเหมือนเกมอื่น ๆ แต่ก็มีสิ่งที่เกมอื่นไม่มีคือ ตามดาวเคราะห์หรือด่านต่าง ๆ จะมีมุมเหมือนบูธถ่ายรูปแอบซ่อนไว้ เมื่อเข้าตรงตำแหน่ง ตัวละครรอบ ๆ ก็จะมาร่วมถ่ายรูปกับเรา น่ารักสุด ๆ
เรื่องประสิทธิภาพของตัวเกมเมื่อเป็นเกมในค่าย PlayStation Studio ทำได้ไร้ที่ติ เฟรมเรตนิ่งมาก และได้แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติ PS5 และ DualSense ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การใช้ความสามารถความเร็ว SSD ทำให้เกมไร้หน้าโหลดคั่นกลาง ไปจนถึงนำคุณสมบัติจอยมาใช้ได้ครบทุกอย่าง แถมนำมาใช้อย่างชาญฉลาด และผู้เขียนเชื่อว่าจะไม่มีเกมไหนที่นำคุณสมบัติ Dualsense มาใช้ได้ครบถ้วนแบบนี้แล้ว
Verdict
“แอสโตรบ็อต” (Astrobot) เป็นเกมที่ครบเครื่อง มีทั้งความน่ารักของตัวละคร ความสนุกจากการผจญภัยไปยังดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่มีธีม และสภาพแวดล้อมแตกต่างกันอีกทั้งยังมีเกมเพลย์ที่ให้ความเพลิดเพลิน บ้างครั้งทำให้หัวร้อนผสมกันไป เหมาะเป็นเกมครอบครัวเล่นได้ทุกเพศทุกวัย สุดท้ายนี้มันเป็นเกมนำเสนอประวัติศาตร์ 30 ปีของ PlayStation ออกมาในมุมที่น่ารักได้อย่างสมบูรณ์แบบ
9.5/10
จุดเด่น (Pro)
- เกมเพลย์สนุกจุใจมีด่านให้เลือกเล่นกว่า 80 ด่าน
- อุปกรณ์พิเศษมีหลากหลาย และมีเซอร์ไพรส์ด้วย!
- กราฟิกสวยงาม แต่ละดาวมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน
จุดสังเกต (Con)
- รูปแบบการเล่นเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่มากนัก
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณบริษัท PlayStation Asia
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ