เครื่อง : PlayStation Classic
ผู้ผลิต/ผู้พัฒนา : SONY
ราคา: 3,590 บาท
วันวางจำหน่าย: 03 ธันวาคม 2018
เมื่อย้อนกลับไปสมัยยุค 90s สมัยเทคโนโลยีกำลังพัฒนา สมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์สมาร์โฟน ไม่มีอินเตอร์เน็ตแรงๆ เหมือนยุคปัจจุบัน ดังนั้นสิ่งที่ให้ความสนุกความบันเทิงแก่เด็กในยุคนั้น นอกจากการนอกบ้านแล้ว ก็มีเครื่องเกมคอนโซลอาทิ Famicom, super Nintendoม PlayStation นี่แหละทำให้เพื่อนแถวบ้านมารวมหัวนั่งเล่นเกมที่หน้าจอทีวี ผมยังจำความได้เป็นอย่างดีเลยว่าเครื่องคอมคอนโซลเครื่องที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้คือเครื่อง “PlayStation” (PSOne) เครื่องเกมคอนโซลรุ่นแรกจากโซนี่
เครื่อง PSOne คือเครื่องเกมคอนโซลที่ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของวงการเกมจนส่งผลมาถึงยุคปัจจุบัน ด้วยวัตกรรมที่โดดเด่น อย่างการแสดงผลในรูปแบบ 3DCG แบบเรียลไทม์และการเล่นด้วยแผ่น CD-ROMs จึงทำให้ PSOne ประสบความสำเร็จมากที่สุดของยุค และเพื่อย้อนเวลาระลึกบรรยากาศสมัยเด็กกลับมา ทางโซนี่ได้ผลิตเครื่อง PlayStation Classic เครื่องเกมคอนโซลจำลองมาจากเครื่อง PSOne มาพร้อมกับเกมยอดฮิต รวมทั้งหมด 20 เกมครับ ซึ่งวันนี้ทางผมจะมาแกะกล่องและรีวิวเครื่อง PlayStation Classic นี้กันว่ามันคุ้มค่าแก่การคว้ามาเล่นหรือเก็บสะสมไหม มาชมไปพร้อมๆ กันครับ
แกะกล่อง
ก่อนจะไปรีวิวมาแกะกล่องกันก่อน ความพิเศษของตัวกล่องคือทางโซนี่ได้จำลองกล่องของ PlayStation Classic ให้เหมือนกับกล่องของเครื่องออริจินอลที่วางจำหน่ายเมื่อ 25 ปีก่อนไว้อย่างครบถ้วน แต่ความพิเศษของกล่องในโซนเอเชียคือกล่องเป็นตัวเดียวกับที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น แต่เกมที่บรรจุมากับเครื่องจะเป็นเกมชุดเดียวกับโซนอเมริกาเหนือ
เมื่อเปิดกล่องออกมาสิ่งแรกเราจะพบกับตัวเครื่อง PlayStation Classic ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าถึง 80% และบางกว่า 45% เมื่อเทียบกับเครื่องออริจินอลครับ ความรู้สึกที่ได้สัมผัสครั้งแรก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก แล้วต้องขอชื่นชมโซนี่ที่สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ บนตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี สามารถทำออกมาได้เหมือนเครื่องออริจินอลเลย ต้องยอมรับเลยว่าสินค้าจริงมีคุณภาพมากครับ
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดเครื่อง และด้านบนจะมีปุ่ม Reset ทำหน้าที่ในการออกจากเกมครับ ทางด้านขวาจะมีอีกปุ่มคือปุ่ม Eject ปุ่มนี้จะใช้ในกรณีที่ผู้เล่นเปลี่ยนแผ่นเกม โดยในเครื่อง PlayStation Classic ก็จะใช้ปุ่ม Eject นี่แหละเป็นเสหมือนการเปลี่ยนแผ่นเกมครับ
มาแกะกล่องกันต่อครับ ถัดไปเราจะพบกับจอย PlayStation คอนโทรลเลอร์แบบต้นฉบับเป๊ะๆ พร้อมกับสายที่ยาวเป็นพิเศษ น่าเสียดายที่โซนี่ไม่ทำคอนโทรลเลอร์แบบ DualShock หรือที่เป็นระบบสั่นออกมา ภายในชุดเราจะได้คอนโทรลเลอร์มาถึง 2 ตัวไว้เล่นกันกับเพื่อนๆ
ที่เหลือจะเป็นคู่มือ (ภาษาไทย), ใบรับประกัน (ภาษาไทย), สาย HDMI และสาย Micro-USB สำหรับจ่ายไฟ ติดนิดเดียวคือทางโซนี่ไม่ได้ให้หัว USB อะแดปเตอร์มาให้ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากเพราะหัวอะแดปเตอร์นี้สามารถใช้กับของสมาร์โฟนได้ หรือสามารถเสียบตรงผ่าน Power Blank ได้เลย เพราะเครื่องใช้ไฟเพียง 5V เท่านั้น
รีวิว
เมื่อเปิดเครื่อง PlayStation Classic ขึ้นมาสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจคือ ตอนโหลดเข้าระบบจะมีโลโก้โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ พร้อมเสียงที่เราคุ้นหูกันดี อีกอย่างที่ทำให้รู้สึกประทับใจคือหน้าตาลักษณะของเมนูซึ่งทางโซนี่ใช้เค้าโครงเมนูของเครื่อง PS1 มาเป็นต้นแบบ เมนูค่อนข้างจะเรียบง่ายสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย
เมื่อกดเข้าตัวเกม สัญลักษณ์โลโก้เพลย์สเตชั่นก็จะปรากฏขึ้น พร้อมกับเสียงซาวด์เอฟเฟคคุ้นหูคุ้นตาหลายๆ คน เมื่อเข้าเกมไปแล้ว ผู้เขียนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณภาพของกราฟิกยังคงต้นฉบับทุกประการ หากเล่นบนทีวีความละเอียดสูงๆ ภาพเกมจะแตก โดยระบบไม่มีออฟชั่นให้สามารถปรับค่าคุณภาพของภาพแบบเครื่อง NES Mini ของนินเทนโดครับ ถามว่ามันแย่มากมั้ย ผู้เขียนเรียนตามตรงว่ามันไม่ได้เลวร้ายนะ เล่นลื่นกราฟิกเราไม่ได้เน้นอยู่แล้ว แค่เกมสนุกเป็นพอ
หนึ่งในฟีเจอร์น่าสนใจของเครื่อง PlayStation Classic คือระหว่างเล่นเกม หากผู้เล่นกดปุ่ม Reset เพื่ออกจากเกม ระบบจะทำการจำสถานะการเล่นล่าสุดในขณะนั้นเอาไว้แบบอัตโนมัติ พร้อมๆ กับออกจากเกม แล้วเมื่อผู้เล่นเข้าเกมไปใหม่ในครั้งหน้า ผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมต่อจากครั้งที่แล้วได้ทันที ข้อเสียอย่างเดียวคือมีช่องเซฟอัตโนมัติเพียงช่องเดียวต่อหนึ่งเกมเท่านั้น
สิ่งที่สามารถมาทดแทนระบบเซฟอัตโนมัติคือสิ่งที่โซนี่เรียกว่า Visual Memory Card มันทำหน้าที่เหมือนตลับเซฟเกม โดยผู้เล่นจะสามารถเซฟเกมแต่ละเกมได้ลงบน Visual Memory Card ได้ โน๊ตนิดเดียวคือระบบจะให้พื้นที่เซฟเกมละ 1 ตลับจำลอง ดังนั้นตลับแต่ละเกมจะถูกเก็บแยกกันเป็นของใครของมันครับ ลองรับได้สูงสุด 15 เซฟต่อเกมพื้นที่เหลือเฟือ!!
มาพูดถึงเกมกันบ้าง PlayStation Classic มาพร้อมกับเกมรวมทั้งหมด 20 เกม ผู้เขียนเชื่อว่าทั้ง 20 เกมนี้ไม่ได้เป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำไว้เด็กของเราหรอก แต่คิดดูครับราคาเครื่อง 3,590 บาท ตกเกมละ 180 บาทเท่านั้น ถือว่าไม่เลวเลยอีกทั้งก็ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะสามารถเปิดใจลองเล่นเกมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเล่นด้วย จริงๆ แค่ Final Fantasy VII และ Resident Evil ก็คุ้มแล้ว
สำหรับการควบคุมและบังคับคอนโทรลเลอร์ต้นฉบับแบบนี้ต้องยอมรับว่าผู้เขียนไม่ค่อยชินกับการต้องมาใช้ปุ่มลูกศรบังคับทิศทางแทนปุ่มอนาล็อกที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน ดังนั้นอาจจะต้องปรับตัวในส่วนนี้เล็กน้อยครับ
Verdict
PlayStation Classic เป็นเครื่องเกมคอนโซลช่วยให้เราสามารถรำลึกบรรยากาศสมัยเด็กได้เป็นอย่างดี ด้วยคุณภาพทางด้านการออกแบบในทุกๆ รายละเอียดเพื่อให้คงไว้ถึงต้นฉบับมากที่สุด มาพร้อมกับเกมเพลย์สเตชั่นสุดฮิตรวม 20 เกม ให้สนุกกัน สำหรับใครที่เป็นแฟนเพลย์สเตชั่นตัวยง PlayStation Classicเป็นเครื่องคอนโซลอีกหนึ่งเครื่องที่คู้ควรแก่การเก็บสะสมครับ
8.5/10
จุดเด่น (Pro)
- สินค้ามีคุณภาพ สามารถจำลองเครื่องต้นฉบับออกมาได้เป็นอย่างดี
- ระบบเซฟและย้อนกลับอัตโนมัติ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เล่น
- อัดแน่นด้วยเกมยอดฮิตรวมทั้งหมด 20 เกม
จุดสังเกต (Con)
- ไม่มีการอัพเกรดคุณภาพกราฟิก ภาพแตกบนทีวีความละเอียดสูง
- ไม่สามารถเพิ่มเกมใหม่ๆ เข้าไปในเครื่องได้
- เซฟอัตโนมัติรองรับได้เพียง 1 ช่องเท่านั้น
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณร้านปลาวาฬเกมส์ (ตัวแทนจำหน่าย PlayStation อย่างเป็นทางการ)
สำหรับเครื่องเกมส์ที่นำมาให้เรามารีวีวครับ
