เกมส์ : Far Cry: New Dawn
แพลตฟอร์ม : PlayStation 4, Xbox One และ PC
ราคา: 1,390 บาท
วันวางจำหน่าย: 15 กุมภาพันธ์ 2019
จากเหตุการณ์นิวเคลียร์ถล่มโลกอันโหดร้าย และน่าหดหู่ใจของเกม Far Cry 5 ทาง Ubisoft ตัดสินใจจะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องเชื่อมต่อกับภาค 5 โดยตรง ครั้งนี้ทางค่ายพร้อมนำผู้เล่นเข้าสู่ดินแดน Hope Country อีกครั้งในสภาพแวดล้อมอันดิบเถื่อนและอันตรายของธรรมชาติอันมีสีสันสดใสในโลกอันล่มสลายแฝงเต็มไปด้วยผู้คนจิตใจเสื่อมโทรม ในโลกดูเหมือนสงบนี่เองผู้เล่นจะต้องพบกับศัตรูฝาแฝดอันบ้าคลั่ง มาพร้อมกับระบบ RPG ครั้งแรกของซีรี่ย์ เต็มอิ่มไปด้วยเควสต่าง ๆ มากมายเพื่อต่อสู้ให้โลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง และนี่คือรีวิวเกมส์ Far Cry: New Dawn ยินดีต้อนรับกลับสู่เมือง Hope Country
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง และตัวระบบเกมบางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
Far Cry: New Dawn เป็นเกมภาคแยกของซีรี่ย์ ซึ่งมีเนื้อเรื่องเชื่อมต่อกับเกมภาค 5 ของซีรี่ย์ Far Cry โดยตรง ซึ่งเหตุกาณ์เกิดขึ้น 17 ปีให้หลังวิกฤติการณ์นิวเคลียร์ล้างโลก ผู้คนล้มตายกันทั่วหน้า และด้วยรังสีนิวเคลียร์มันได้ทำให้เมือง Hope County เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของโลกไปอย่างสิ้นเชิงและเต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติ ชีวิตต่าง ๆ เริ่มกลับมาอีกครั้งหลังความโกลาหล ในโลกที่ดูเหมือนสงบสุข มีผู้รอดชีวิตจากนิวเคลียร์อาศัยอยู่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายนี่เอง ผู้รอดชีวิตกลับต้องเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหม่คือ แก๊ง Highwaymen นำโดยฝาแฝดตัวฉกาจ Mickey และ Lou สองสาวพร้อมพรรคพวกรวมตัวกันเดินทางจากเขตชายแดนมายังเมือง Hope County เพื่อหวังช่วงชิงทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่มาเป็นของตน ถ้าหากใครไม่ยอมเข้าร่วมแก็งหรือต่อต้านจะกำจัดทิ้งให้หมด
ในภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น “กัปตัน” หนึ่งในสมาชิกกลุ่มต่อต้านของ โธมัส รัช (Thomas Rush)ออกต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้เมือง Hope County กลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่แล้วพวกเขาก็เจอพวกแก๊ง Highwaymen บุกจนต้านไว้ไม่อยู่จนทำให้ กับตัน และรัช ถูกจับ รัชอาศัยจังหวะผลักกับตันตกหน้าผาไปยังแม่น้ำด้านล่าง ทั้งคู่ก็ต่างนึกว่าต่างคนต่างตายกันไปแล้ว ด้วยความโชคดี “คามิลน่า ราย” (Carmina Rye) ลูกสาวของ Nick Rye นักบินจากภาค 5 และเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มต่อต้านของเมือง Hope County มาพบกับตันเข้าจึงนำพามายัง Homebase (ฐานบัญชาการ) หรือที่เรียกว่า Prosperity เป็นเหมือนป้อมปราการของกลุ่มต่อต้าน จากนั้นพวกเขาตัดสินใจออกตามหารัช เพื่อรวบรวมผู้ชำนาญการพิเศษในหลาย ๆ ด้านมารวมตัวเพื่อต่อกรกับแก๊ง Highwaymen ให้จงได้
ภาคนี้ผู้เขียนคิดว่าผู้พัฒนาตั้งใจให้เนื้อเรื่องกระชับขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ แต่หากใครเคยเล่นเกมภาคก่อน ๆ ในซีรี่ย์ก็พอจะเดาแนวทางการดำเนินเรื่องได้ ทว่าในภาคนี้ผู้เขียนต้องเรียนเลยว่ามีตัวละครเซอร์ไพร์สคาดไม่ถึงปรากฏตัวออกมาด้วย ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องภาคนี้มันแน่นกว่าภาคก่อน ๆ นะ แม้ว่าเควสแคมเปญหลักจะมีเพียง 22 เควสเท่านั้น รวมไปถึงมีฉากคัดซีนรวมแล้วไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ตาม โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องพัฒนาออกมาได้น่าติดตามและน่าสนใจไม่น้อย แต่การนำเสนอที่มาที่ไปของตัวละครต่าง ๆ ยังทำไม่ค่อยดี มีข้อสังเกตนิดหน่อยคือ หากใครไม่ได้เล่นภาค 5 มาก่อนและต้องการเสพเนื้อเรื่องภาคนี้ ผู้เขียนไม่แนะนำให้ซื้อจนกว่าจะได้เล่นเกมภาค 5 ก่อนเพราะมันเป็นเรื่องต่อกันโดยตรง
เกมเพลย์
แน่นอนว่าเกม Far Cry: New Dawn เป็นเกมภาคแยกออกมามีเนื้อเรื่องต่อจากภาค 5 โดยตรง ดังนั้นสถานที่ในเกมก็ยังอยู่ในเมือง Hope County เช่นเคย ดังนั้นแล้วเกมเพลย์ในภาคนี้มีความแตกต่างจากภาค 5 หรือไม่? ผู้เขียนต้องเรียนเลยว่ากลไกเกมเพลย์ ลักษณะการเล่นเหมือนกับภาค 5 หรือพูดง่าย ๆ คือยกเครื่องภาค 5 มาไว้ในตัวเกมนี้เลย แต่มีการแต่งเติมให้โลกอันล่มสลายนี้ดูมีสีสัน สวยงามมากขึ้นเท่านั้นเอง สุดท้ายแล้วความรู้สึกมันก็เหมือนอยู่ในเมือง Hope County ของภาค 5 นั่นแหละ ยิ่งไปกว่านั้นคืออาจจะเป็นเพราะ Far Cry: New Dawn เป็นเกมภาคเสริมดังนั้นแผนที่ของเกมถูกลดขนาดลงมาให้โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน พื้นที่เล็กลงก็เท่ากับว่าเควสก็น้อยลงเช่นกัน อย่างที่เรียนไปเควสหลักมี 22 เควสเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีกิจกรรมอื่นให้ได้สนุกเพราะหากนับเควสย่อย กิจกรรมเสริมมีทั้งหมดร่วมกว่า 100+ เควสได้ หากรีบ ๆ จบหน่อยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 23 ชั่วโมงถือว่าไม่ยาวและไม่สั้นจนเกินไป
แต่ช้าก่อนไม่ใช่ว่าระบบเหมือนกันขนาดนี้ แล้วมันไม่มีอะไรใหม่เลยเหรอ? ผู้เขียนตอบให้เลยว่ามีครับ ในเกม Far Cry: New Dawn ได้มีการใส่องค์ประกอบสไตล์ RPG เข้าไปเป็นครั้งแรกของซีรี่ย์ มีการแยกระดับของอาวุธและระดับศัตรูออกเป็น 4 ระดับได้แก่ Rank 1, Rank 2, Rank 3 และ Elite สามารถสร้างอาวุธจากการสะสมสิ่งงของเพื่อมาคราฟท์สร้างเป็นอาวุธให้อารมณ์เหมือนเราอยู่ในโลกที่ล่มสลายจริง ๆ (เหมือนเอาซากขยะมาสร้างเป็นอาวุธ) อาทิ หน้าไม้ใบเลื่อย สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถสังเกตหลอด HP บนหัวของศัตรูได้อย่างชัดเจน สีเหลืดของศัตรูสามารถบ่งบอกถึงระดับความเก่งกาจได้ รวมถึงสัตว์ต่าง ๆ ภายในโลกยังมีการแยกระดับความแข็งเกร่งอย่าชัดเจน และการอัพเกรด Prosperity (ฐานบัญชาการ) ซึ่งส่งผลต่อการเล่นอย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้มันให้กลิ่นอายเกมสไตล์ RPG อ่อน ๆ ได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือเกม Far Cry ที่เรารู้จัก จึงไม่ได้นึกถึง RPG เท่าไหร่นัก
อีกหนึ่งระบบใหม่คือระบบ Expeditions จะส่งผู้เล่นไปสู่สถานที่ต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ พวกเขาจะต้องเก็บรวบรวมวัตถุดิบ ทรัพยากรมีค่าต่าง ๆ ให้เร็วและหลบหนีออกจากพื้นที่ให้ไว้ที่สุด สถานที่มีตั้งแต่ไม่ว่าจะบริเวณพื้นที่ชื้นแฉะไปจนถึงหุบเขาและ Outpost มากมาย เมื่อผู้เล่นได้รวบรวมวัตถุดิบทรัพยากรมาแล้ว สามารถนำมาคราฟท์อาวุธ หรือใช้ในการอัพเกรด Prosperity (ฐานบัญชาการ) มันจะนำไปสู่การปลดล็อค Fast Travel, อัพเกรดหลอดเลือด HP ให้มากขึ้น หรืออัพเกรดห้องประกอบปืนเพื่อผู้เล่นจะสามารถสร้างอาวุธระดับสูง ๆ ได้ ระบบ Expeditions เหมือนการฟาร์มเพื่อแลกกับวัตถุดิบ ทรัพยากรนั่นเอง มันเป็นกิจกรรมซ้ำ ๆ กัน เมื่อเคลียร์พื้นที่แล้ว ศัตรูจะกลับมายึดครองพร้อมกำลังเสริมแข็งเกร่งกว่าเดิม
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเกม Far Cry คือระบบ Perk หรือระบบซึ่งนำคะแนนจากการทำ Challenge ออกสำรวจเพื่อมาแลกกับสกิลนั่นเอง ระบบ Perk ในภาคนี้เรียกได้ว่าได้หยิบยกมากจากภาค 5 มาเลยก็ว่าได้แทบจะไม่ต่างกันเลยแหละ แต่คะแนน Peak จะได้มาง่ายกว่าภาค 5 เล็กน้อย โดยเพียงสังหารศัตรู หรือการล่าสัตว์ก็จะได้รับคะแนนไปแลกสกิลได้เลย หากขยันฟาร์มอัพเกรดฐานจนถึงระดับสูง จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเราอยู่เหนือเกมทั้งอาวุธ และองค์ประกอบหลายอบ่างจะทำให้เกมดูง่ายลง แล้วแม้ว่าจะเลือกเล่นในระดับความยากสุด ผู้เขียนยังรู้สึกว่าศัตรู AI ยังไม่ฉลาดเท่าไหร่
แม้ว่าจะเป็นเกมภาคแยกออกมาจากภาค 5 เกมยังคงนำเสนอโหมด Co-Op ผู้สามารถร่วมเล่นกับเพื่อนได้ตั้งแต่ต้นจนจบเกม โดยมีเงื่อนไขเดิมคือผู้เล่นหลักจะเป็นคนเดียวที่ได้รับค่าประสบการณ์และความคืบหน้าในเกม ในขณะเดียวกันคนที่ร่วมเล่นกับผู้เล่นหลักจะได้รับเป็นรางวัลแทนค่าประสบการณ์ในเกม นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดอีกอย่างคือผู้เล่นต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันดั้งนั้น แม้ว่าเกมจะเป็น Open-World แต่ถูกจำกัดเอาไว้หากเล่นแบบ Co-Op
แม้ว่ากลไกระบบหลาย ๆ อย่างของเกม Far Cry: New Dawn จะถอดแบบจากภาค 5 มาในหลาย ๆ ด้านแต่ผู้เขียนชอบระบบ Expeditions ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับมันเพื่อพักจากการทำเควสเนื้อเรื่องหลักสักเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าผิดหวังคือแผนที่เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน ระบบไม่แตกต่างจากเดิมและไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น ภาคนี้เรียกได้ว่าดึงดูดให้ผู้เล่นกลับมาเสพบรรยายกาศของเมือง Hope County ที่แตกต่างจากเกมภาค 5 กับการผจญภัยไปในโลกอันล่มสลาย ป่าไม้ลำธารเขียวขจี ซึ่งจะได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง
กราฟิก
Far Cry: New Dawn สามารถนำเสนอภาพกราฟิกโลกหลังหายนะแสนงดงามได้เป็นอย่างดี การเล่นแสง, ผิวน้ำ, ป่าไม้ลำธารเขียวขจี และสามารถเล่นสีสันดอกไม้ใบหญ้าได้สวยงาม ตระการตาตามมาตราฐานของค่าย Ubisoft นอกจากนี้อาวุธต่าง ๆ ทั้งปืนสั้น, ปืนไรเฟิล, ปืนกล รวมไปถึงปืนที่สร้างมาจากการคราฟท์ล้วนแล้ว มีโทนสีและลักษณะเข้าธีมโลกหลังหายนะได้เป็นอย่างดี มันมีสีสันสะดุดตา แหวกแนวกว่าเกมอื่น ๆ บ่งบอกถึงกว่าป่าเถื่อน ความบ้าคลั่งในแบบ Far Cry
ทุกอย่างดูมีมีชีวิตชีวาไม่ใช่แค่เพียงอาวุธ มันรวมไปถึงสไตล์ของตัวละคร, ยานพาหนะ และสัตว์ต่าง ๆ มันฉีกแนวออกจากเกมแนว Post Apocalypse ทั่วไปที่มักจะออกแบบโลกให้ดูน่าสะพรึงกลัว สำหรับเฟรมเรตของเกมนี้ก็ทำได้พอใช้ เพราะบางครั้งผู้เขียนพบภาพกระตุกและโหลดไม่ทันเป็นบางช่วงซึ่งมันเล็กน้อยมาก ๆ จนไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์ในการเล่น (รีวิวโดยใช้เครื่อง PS4 Pro)
Verdict
แม้ว่า Far Cry: New Dawn จะนำเสนอเกมเพลย์เหมือนภาค 5 และเรายังคงอยู่ในเมือง Hope Country ก็ตามแต่ทว่าหลังวิกฤติการณ์นิวเคลียร์ล้างโลกบรรยายกาศของเกมเปลี่ยนไป มาพร้อมภาพกราฟิกอันสดใสมีชีวิตชีวา และเนื้อเรื่องอันบ้าคลั่งตามแบบฉบับ Far Cry นอกจากนี้เกมได้นำเสนอองค์ประกอบของ RPG เข้ามามีการนำรับบอัพเกรดและคราฟท์อาวุธจากทรัพยากรหลงเหลืออยู่ในโลก หรือระบบ Expeditions จะส่งผู้เล่นไปสู่สถานที่ต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ พวกเขาจะต้องเก็บรวบรวมวัตถุดิบ ทรัพยากรมีค่าต่าง ๆ ให้เร็วและหลบหนีออกจากพื้นที่ให้ไว้ที่สุด เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้เล่นสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับเกมได้ยาว แต่ด้วยสองระบบใหม่นี้อาจจะยังไม่เพียงพอในการดึงดูดให้ผู้เล่นมากนัก ประกอบหากใครไม่เคยเล่นภาค 5 มาเลยอาจจะงงกับเนื้อเรื่องช่วงหลังได้ สุดท้ายนี้หากใครยังอินกับภาค 5 แล้วต้องการเสพเรื่องราวต่อเนื่องจากภาค 5 ล่ะก็ภาคนี้เหมาะสมกับคุณ แต่หากใครคาดหวังต้องการระบบเกมเพลย์แปลกใหม่เกม Far Cry: New Dawn อาจจะไม่เหมาะกับท่านเท่าไหร่
7/10
จุดเด่น (Pro)
- กราฟิกอันสวยงาม แหวกแนวแตกต่างจากเกม Post Apocalypse เกมอื่น ๆ
- ระบบ Expeditions ทำเอาเพลิดเพลินจนลืมเนื้อเรื่องหลัก
จุดสังเกต (Con)
- เนื้อเรื่องที่มาของตัวละครยังทำไม่ค่อยดีเท่าไหร่
- ระบบเกมเพลย์ไม่แตกต่างมากนัก ทำให้ไม่รู้สึกแปลกใหม่
รีวิวและเขียนบทความโดย ภัคพล บัวโทน (GuidePS4EXPErt)
ขอบคุณ Ubisoft Singapore
สำหรับแผ่นเกมส์ที่ให้เรามารีวีวครับ