ในบทความก่อนผู้เขียนได้พูดถึงเครื่องไม้เครื่องมือไอเท็มต่าง ๆ ที่ผู้เล่นพกติดตัวเพื่อช่วยเพิ่มคำสะดวกและย่นระยะทางการเดินทางของผู้เล่นได้ไม่มากก็น้อย หากใครยังไม่ได้อ่านบทความคำแนะนำ 5 ไอเท็มพื้นฐานที่ควรพกติดไว้ในช่วงแรกของเกม Death Stranding สามารถคลิกอ่านได้(ที่นี่) ครับ แต่เมื่อเล่นไปสักระยะหนึ่งแล้วจะทราบว่าแค่เครื่องไม้เครื่องมือไอเท็มที่เราพกไปนั้นมันไม่เพียงพอต่อการส่งสินค้าในระยะไกลหรือส่งสินค้าพร้อมกัน 2 เมืองติดต่อกันแบบนี้ไอเท็มของเราไม่พอแน่ ๆ ดังนั้นตัวเกมนำเสนอให้ผู้เล่นสามารถสร้าง/ปริ้นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่จากแบบแปลนที่มีอยู่ในฐานข้อมูล Chiral Network สิ่งก่อสร้างนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เล่นระหว่างเดินทางส่งสินค้าไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน สร้างเซฟเฮ้าส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ในบทความนี้เองผู้เขียนจะมาเปิดเผยข้อมูลคุณสมบัติของสิ่งปลูกสร้างแต่ละอย่างที่สามารถช่วยเหลือผู้เล่นระหว่างเดินทางขนสินค้าถ้าพร้อมแล้วมาเรียนเชิญอ่านกันเลย
ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าผู้เล่นจะเริ่มสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เหล่านี้ได้ตั้งแต่เอพิโสด 3 ขึ้นไป หากใครยังเล่นไม่ถึงก็ให้เล่นตามเนื้อเรื่องในเกมไปก่อน แต่สำหรับใครที่เล่นถึงแล้วระบบจะมีแนะนำวิธีการสร้างสิ่งปลูกสร้างให้กับผู้เล่นซึ่งสิ่งปลูกสร้างจะค่อย ๆ ปลดล็อคออกมาให้ใช้/สร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้นตามเนื้อเรื่องครับ
Bridge (สะพาน) – ตรงตัวเลยครับมันคือสะพานซึ่งใช้ในการข้ามแม่น้ำและหน้าผา ไม่ใช่ว่ากดสร้างเสร็จจะออกมาเป็นสะพานเลยนะตัวนี้เป็นแค่รากฐานของสะพานการจะสร้างสะพานให้เสร็จสมบูรณ์ได้ต้องมีวัสดุตามต้องการให้ครบเสียก่อน
Road (ถนน) – ในบางพื้นที่ตัวเกมจะอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถสร้างถนนหนทางได้เพื่อรวดเร็วต่อการขนส่ง และสะดวกให้ยานพาหนะวิ่งผ่านได้อย่างสะดวก การสร้างถนนให้เสร็จสมบูรณ์ได้ต้องมีวัสดุตามต้องการให้ครบก่อนที่จะลงมือสร้างถนนได้
Generator (สถานนีชาร์จไฟฟ้า) – สถานีชาร์จไฟฟ้ามีประโยชน์ในการชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ขากล, ถุงมือช่วยในการจับเกาะ, หน้ากากกันแก๊สพิษ เป็นต้น นอกจากนี้ยานพาหนะต่าง ๆ ในเกมก็ใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงทั้งหมด หากว่ายานพาหนะที่ผู้เล่นขับอยู่เกิดแบตหมดก็จะไม่สามารถขับได้อีกต่อไป
Timefall shelter (ที่กำบังเวลาเกิดปรากฏการณ์ไทม์ฟอล) – หลายคนอาจจะเดาได้แล้วมันก็คือสิ่งปลูกสร้างไว้สำหรับหลบฝนหรือปรากฏการณ์ไทม์ฟอลนั่นเองครับ เมื่อผู้เล่นเข้ามาในบริเวณที่หลบนี้ผู้เล่นสามารถกดข้ามเวลาได้ครั้งละ 10 นาทีเพื่อรอดูว่าฝนหยุดตกหรือยัง หากยังก็สามารถกดข้ามเวลาต่อไปเรื่อย ๆ จนฝนหยุดตกก่อนออกเดินทางต่อครับ นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติเหมือนไทม์ฟอลสเปรย์ด้วยเมื่อเข้ามาอยู่บริเวนที่หลบนี้มันสามารถซ่อมแซมสินค้า เครื่องไม้เครื่องมือหรือไอเท็มต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายจากไทม์ฟอลให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ด้วย
Watch Tower (หอส่องการ) – สิ่งปลูกสร้างสามารถใช้ในการสอดส่องพื้นที่โดยรอบจากมุมสูงได้ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงตำแหน่งของสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ และสินค้าสูญหายโดยรอบได้พร้อมทั้งสามารถจับตำแหน่งของพวก MULES ได้เช่นเดียวกัน
Safe House (เซฟเฮ้าส์) – มันคือเซฟเฮ้าส์หรือ Private Room ของแซมไว้สำหรับพักผ่อนอาบน้ำเตรียมร่างกายเพื่อเดินทางต่อในภารกิจอันแสนยาวไกล นอกจากนี้ช่วยให้แซมได้พักแล้วมันยังเป็นสถานที่ ที่ช่วย B.B. ได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดด้วยพร้อมยังสามารถซ่อมแซมยานพาหนะที่อาจจะเสียหายจากไทม์ฟอลได้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญไว้สร้างในพื้นที่ห่างไกลหัวเมืองใหญ่ ๆ เซฟเฮ้าส์ลักษณะการสร้างเหมือนสะพานคือไม่ใช่ว่ากดสร้างเสร็จจะออกมาเป็นเซฟเฮ้าส์เลยนะตัวนี้เป็นแค่รากฐานเท่านั้น การจะสร้างเซฟเฮ้าส์ให้เสร็จสมบูรณ์ได้ต้องมีวัสดุตามต้องการให้ครบเสียก่อน
Post Box (ตู้จดหมาย) – สิ่งปลูกสร้างนี้จะอนุญาตให้ผู้เล่นจัดเก็บสัมภาระต่าง ๆ ไว้ใน Private Locker (ที่จัดเก็บส่วนตัว) ไม่จบแค่นั้นผู้เล่นยังสามารถเข้าถึง Share Locker (ที่จัดเก็บสาธารณะ) ผู้เล่นจะสามารถแชร์ไอเท็มของตัวเองหรือหยิบไอเท็มของคนอื่นที่แชร์ไว้ใน Share Locker นำไปใช้ได้ทันที
Zipline (ซิปไลน์) – การโหนสลิงจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งซึ่งมีประโยชน์มาก มันช่วยย่นเวลาไปได้เยอะนอกจากนี้สามารถสร้างซิปไลน์ต่อกันไปเรื่อย ๆ ได้เลยแต่ข้อเสียของซิปไลน์คือมันต้องสร้างสองจุดดังนั้นเราจะต้องมีวัสดุพอในการก่อสร้างด้วย บ่อยครั้งที่ผู้เขียนเห็นซิปไลน์สร้างโดด ๆ ไว้อยู่เสาเดียวทำให้ดูไร้ประโยชน์ไปเลย ซิปไลน์สร้างยากแต่เมื่อสร้างได้แล้วมันมีประโยชน์มาก
ข้อมูลและเขียนบทความโดย Play4Thai