เกม : Need For Speed: Heat
แพลตฟอร์ม : PS4, Xbox On e และ PC
ราคา: 1,790 บาท (ราคา PS4)
วันวางจำหน่าย: 08 พฤศจิกายน 2019
หากพูดถึงเกมสตรีทเรซซิ่งแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักเกม Need For Speed ผลงานพัฒนาของ Ghost Game ค่ายพัฒนาเกมในเครือ EA แต่ทุกคนคงทราบกันดีนับตั้งแต่ Need For Speed Underground 2 มนต์ขลังเริ่มลดลงและไม่เป็นที่นิยมเท่าเดิม แม้ว่าเทคโนโลยีจะดีมากกว่าแต่ก่อนทั้งกราฟิกที่ดีขึ้น, ระบบออนไลน์และตัวเกมเพลย์อันทันสมัยมากขึ้นก็ไม่อาจจะเอาชนะใจแฟน ๆ เหมือนภาคเก่า ๆ ได้ หลังห่างหายไป 2 ปี ในที่สุดทาง EA ก็กลับมาลองเสี่ยงอีกครั้งกับเกม Need For Speed: Heat ซึ่งจะนำพาผู้เล่นสู่เมือง Palm City นำเสนอเกมทั้งรูปแบบกลางวันและกลางคืน พร้อมเรื่องราวของนายตำรวจที่ต้องการขจัดเหล่าสตรีทเรซซิ่งให้หมดไป ตัวเกมยังนำเสนอการปรับปรุงเกมเพลย์และระบบการแต่งรถอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์มาให้ผู้เล่นได้สัมผัสกัน ครั้งนี้มาดูกันว่าภาค Heat จะเอาขนะใจแฟน ๆ เกมได้หรือไม่ เรียนเชิญอ่านรีวิวเกม Need For Speed: Heat มาถูกทางแล้วกับซีรี่ย์สตรีทเรซซิ่งสุดตำนาน
**บทความรีวิวนี้เป็นบทความไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง และตัวระบบเกมบางส่วน เพื่อให้แฟนๆ ได้รับประสบการณ์สูงสุดในการเล่น และตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของเกม Need For Speed: Heat เริ่มต้นขึ้นโดยการนำเสนอรายการข่าวซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์ได้นำโชว์ภาพเหล่าสตรีทเรซเซอร์ที่จัดการแข่งรถในเมือง Palm City รัฐ Florida ซึ่งเป็นที่ตั้งของเกม อย่างไรก็ตามภาพที่ปรากฏบนสื่อกลับออกมาในแง่ลบจนถึงมีการระบุว่าเหล่านักซิ่งนี้เป็นอันตรายและภัยคุกคามต่อสังคม นายตำรวจนามว่า Frank Mercer หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนจับรถความเร็วสูงของ Palm City ได้ออกมาแถลงและส่งสารถึงเหล่านักแข่งว่า “พวกเขาต้องหยุดการกระทำโดยเร็วที่สุด” แต่ภายใต้ความเป็นฮีโร่ในสายตาประชาชนนั่นเอง ตกกลางคืนเขาเลือกที่จะจัดการต่อเหล่านักซึ่งด้วยวิธีของตัวเองโดยไม่สนใจกฏหมายใด ๆ และพยายามกำจัดนักซิ่งเหล่านี้ให้หมดไปจากเมือง Palm City
แม้ว่านักซิ่งหลายคนเริ่มทนไม่ไหวพากันหนีออกจากเมือง Palm City แต่ก็ยังมีนักซิ่งหลายคนไม่ยอมแพ้ต่อสู้เพื่ออยู่รอดในเมืองนี้ต่อไปเช่นเดียวกับ Ana Rivera นักซิ่งสาวผู้สูญเสียลูกน้องไปนับไม่ถ้วนจากการโดน Mercer จับและขับไล่ออกจากเมือง โดยเราจะได้รับบทเป็นนักซิ่งหน้าใหม่ชื่อ Lucas ผู้ต้องการแปรผันตัวเองเป็นนักแข่งรถและต้องการพิสูจน์ท้าประลองฝีมือใน Palm City โดยมี Rivera จับตามองอยู่ห่าง ๆ เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อเกิดการคอรัปชั่นในองค์กรตำรวจเกิดขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปลองไปติดตามกันเองนะครับ
ดูเหมือนว่าทางผู้พัฒนาตั้งใจให้เนื้อเรื่องของเกมดูเข้มข้นขึ้นกับการเปิดมาด้วยฉากคัทซีนและการไล่ล่าระหว่างผู้เล่นและตำรวจอันสุดมันส์ เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ มันชวนให้รู้สึกว่าพล็อตของเรื่องมันคล้ายกับภาพยนตร์เรื่อง Fast and the Furious (บางส่วนก็คล้าย Most Wanted) รู้เลยว่าทางผู้พัฒนาต้องการให้เรื่องราวในเกมดูน่าสนใจดูอลัง ในภาคนี้มันดูดาร์กกว่าภาคก่อน ๆ จนดูแปลก ๆ และไม่ฟิตกับธีมของซีรี่ย์เท่าไหร่ แน่นอนว่าเรื่องราวไม่ได้ประติดประต่อจนทำให้มันไม่ได้น่าติดตามขนาดนั้น พอร่วมการแข่งขันไปซักพักก็ไม่ค่อยได้สนใจเนื้อเรื่องแล้ว ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับเนื่องเรื่องกับภาคเก่า ๆ อย่าง Carbon แล้วยังคนละชั้นครับ
เกมเพลย์
Need For Speed Heat ยังคงนำเสนอเกมแนวสตรีทเรซซิ่งเช่นเคยแต่ระบบเกมเพลย์หลักของภาคนี้ถูกสร้างขึ้นกับระบบกลางวันและกลางคืนสร้างความแตกต่างให้กับภาคก่อน ๆ ในช่วงกลางวันเมืองจะปราศจากตำรวจสามารถลงแข่งขันตามอีเว้นท์แบบไม่ต้องระวังหลัง แต่ทว่าเมื่อตกกลางคืนเมื่อไหร่บรรยากาศของเกมเปลี่ยนไปตำรวจลาดตระเวนเริ่มออกไล่จับสิงห์นักแข่งจากบรรยากาศแข่งรถชิว ๆ กลายเป็นความกดดันต้องคอยระแวงหลังตลอดเวลา ตัวเกมนำเสนอระบบที่เรียกว่า Heat Level หรือเลเวลความร้อนแรงที่ทวีคุณขึ้นเรื่อย ๆ จากการเอาชนะการแข่งขันแต่ละครั้งแน่นอนว่ายิ่ง Heat Level สูงมากเท่าไหร่ก็รีวอร์ดที่จะได้รับก็มากขึ้นเช่นกัน เมื่อเลเวลความร้อนแรงเพิ่มขึ้นมันก็เตะตาพวกตำรวจในการทำทุกวิถีทางเพื่อจับเราหากโดนจับได้เมื่อไหร่เราจะสูญเสียค่า Heat ดังกล่าวทันที รวมถึงเสียค่าปรับอีกต่างหาก สิ่งเดียวที่จะป้องกัน Heat Level คือหนีตำรวจและกลับไปยังเซฟเฮ้าส์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับรีวอร์ด จังหวะตำรวจไล่ล่าชวนให้นึกถึงเกม GTA อย่างไรอย่างนั้นเลย ตำรวจใช้รถสปอร์ตมาไล่กันเป็ฝูงมิหนำซ้ำมีการเอาเฮลิคอปเตอร์มาไล่ล่าด้วย การหนีแต่ละครั้งยากและกินเวลายาวนานมากบางครั้งกินเวลายาวเป็น 10 นาทีก็มีคือยากกว่า Most Wanted
ด้วยระบบเกมเพลย์ที่ดูแบ่งออกมาเป็น 2 แบบนี้มันสร้างความรู้สึกแตกต่างกันตอนกลางวันแข่งรถตามอีเวนท์ถูกกฏหมายได้เงินรางวัลก้อนโต ส่วนตกกลางคืนแข่งรถแบบผิดกฏหมายแต่สิ่งที่ได้รับคือรีวอร์ดและชื่อเสียงที่สามารถนำมาใช้ตกแต่งรถจนไปถึงการซื้อรถคันใหม่มาใช้ครับ ตัวเกมได้ออกมาแบบมาให้ผู้เล่นสลับระหว่างกลางวันและกลางคืนได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องรอให้เวลาในเกมเปลี่ยนครับ ระบบนี่เองสร้างความแตกต่างให้กับภาคที่ผ่าน ๆ มาและทำออกมาได้ไม่เลวเลย
การตกแต่งและอัพเกรดประสิทธิภาพของรถยนต์ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของซีรี่ย์เกมนี้ถูกปรับปรุงให้ดียิ้งขึ้นกว่าเดิม ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณทาง EA ที่ตัดสินใจฟังเกมเมอร์โดยการถอดระบบ Speed Card ออกจากเกมดังนั้นผู้เล่นจะมีอิสระในการตกแต่งรถยนต์ได้เต็มที่แบบไม่ต้องมานั่งฟาร์ม Speed Card แบบไม่จบไม่สิ้นเสียที ระบบแต่งรถภาคนี้ให้ความรู้สึกเหมือนภาค Pro Street หรือ Shift ผสมกับ Payback โดยผู้เล่นสามารถใช้เงินและชื่อเสียงในการตกแต่งและอัพเกรดประสิทธิภาพของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นการแต่งสี, ติดสติกเกอร์, เปลี่ยนบอดี้รถ, เปลี่ยนล้อแม็กไปจนถึงการแต่งท่อไอเสียและเครื่องยนต์มีให้เลือกใช้มากมาย เครื่องยนต์มีหลายระดับซึ่งสร้างความแตกต่างให้กับเกมเพลย์ได้เลย พวกอะไหล่ดังกล่าวจะปลดล็อคตามเลเวลของเรา เมื่ออะไหล่ปลดล็อคก็สามารถซื้อใส่กับรถประเภทใดในเกมที่มีให้เลือกถึง 127 คัน นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้กับตัวละครได้ด้วยนะ ระบบยังต่อยอดจนกระทั่งสามารถลอกลายการตกแต่งจากผู้คนคนอื่น ๆ ได้ด้วยเจ๋งมาก ๆ
ถ้าพูดกันตามตรงระบบการบังคับของภาคนี้แทบจะเหมือนกับ Payback เป๊ะ ๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรปรับปรุงเลยสิ่งที่ปรับปรุงในภาคนี้คือระบบการดริฟต์มีการจับความหนักเบาของการกดคันเร่งและผสมผสานกับการกดเบรกหากทั้งสองอย่างผสานกันพอดีระบบจะดริฟต์ได้อย่างสวยงาม แต่หากกดคันเร่งหนักไปรถจะเกิดอาการปัดได้ด้วย ระบบดริฟต์ใหม่นี้อาจจะต้องใช้เวลาฝึกสักนิดก่อนจะคุ้นชินเมื่อชินแล้วบอกได้คำเดียวว่าระบบปรับปรุงมาได้ดีสุด ๆ แม้ว่าระบบการดริฟท์จะพัฒนาออกมาได้ดีทว่าการเข้าโค้งหรือการเลี้ยวยังทำให้รู้สึกว่ารถยังไม่ค่อยมีน้ำหนัก อย่างไรก็ตามด้วยบรรยากาศการแข่งขันการโดนตำรวจไล่ล่าก็ทำให้ไม่ได้นึกถึงข้อด้อยตรงนี้เลย แต่สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ AI ในเกมมันไม่สมดุลเอาซะเลยในขณะที่ AI ตำรวจที่ไล่ล่าเราออกแบบมาอย่างยากกว่าจะหนีหลุดได้ใช้เวลานาน อีกด้าน AI รถที่แข่งขันในรายการต่าง ๆ ของเกมกลับไม่ฉลาดเอาซะเลยบางครั้งปล่อยให้ทิ้งห่างชนะเอาง่าย ๆ บางครั้ง AI ก็เก่งจนเราไม่สามารถแซงขึ้นชนะได้ก็มีส่วนนี้ควรปรับปรุงอย่างแรง
ส่วนประเภทการแข่งขันก็มีเหมือนภาคก่อน ๆ ของซีรี่ย์ไม่ว่าจะเป็นแข่งเป็นรอบ ๆ, แข่งดริฟต์, แข่งจับเวลา เป็นต้น ในช่วงแรกของเกมไม่ใช่ว่าผู้เล่นจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ทุกรายการนะ เราจะต้องเล่นจนระดับเลเวลของเราเป็นไปตามเงื่อนไขตามรายการการแข่งขันถึงจะเข้าร่วมประลองฝีมือได้เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ อาจจะเกิดความรู้สึกจำเจและการแข่งขันซ้ำซากบ้างเล็กน้อย ส่วนทางด้านระบบออนไลน์ก็เป็นไปตามที่เราคาด สามารถใช้รถแต่งของเราไปท้าแข่งกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้ซึ่งมันก็คือระบบออนไลน์มาตรฐานไม่ได้สร้างความแตกต่างจากเกมแข่งรถทั่วไป จุดนี้ผู้เขียนจึงรู้สึกเฉย ๆ เข้าใจว่าทางทีมพัฒนาคงมุ่งเน้นไปออกแบบระบบอื่น ๆ ที่เป็นหัวใจหลักของเกมมากกว่า
กราฟิก
เช่นเดียวกับหลายเกมของ EA เกม Need For Speed: Heat ถูกพัฒนาขึ้นด้วย Frostbite Engine ผลออกมาคือภาพของตัวเกมทำออกมาได้ดีตามมาตราฐานของเกมในปัจจุบันทำให้เมือง Palm City ออกมาดูดีทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนว่ากราฟิกตอนกลางคืนสวยกว่าตอนกลางวันมาก อาจจะเป็นเพราะแสงสีจากตึกระฟ้าอาคารต่าง ๆ มากระทบลงตัวรถจึงทำให้กราฟิกดูดีกว่ากลางวัน ข้อสังเกตมีหนึ่งอย่างเมือง Palm City ดูโล่ง ๆ รถยนต์ปกติตามท้องถนนน้อยกว่าภาคอื่น ส่วนรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ รอบเมืองยังทำออกมาสู้เกมแข่งรถอื่น ๆ ไม่ได้ มันให้ความรู้สึกว่ารถดูสมจริงกว่าวัตถุรอบ ๆ จนทำให้ฉากมันดูดรอป ๆ ลงอย่างไรก็ตามท้ายสุดแล้วเราจะมาจดจ่ออยู่กับการแข่งมากกว่ามานึกถึงจุดนี้
Verdict
EA ได้พิสูจน์แล้วพวกเขามาถูกทางแล้วจากการรับฟังข้อติชมของเกมเมอร์จนกลับไปพัฒนาเกมออกมาได้สมบูรณ์และสนุกมากขึ้น Need For Speed: Heat นำเสนอเกมแนวสตรีทเรซซิ่งที่ทางค่ายได้นำกลับมาได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยระบบกลางวันและกลางคืนมันสร้างความรู้สึกแตกต่างกันจากกลางวันแข่งรถชิว ๆ ในรายการต่าง ๆ ไปสู่ตอนกลางคืนที่ต้องมาหนีการไล่ล่าของตำรวจ ยังไม่พอเกมยังนำเสนอการปรับแต่งรถที่ให้อิสระแก่ผู้เล่นมากขึ้น มีออพชั่นให้เลือกอัพเกรดมากขึ้นและมาพร้อมกับรถในเกมมากกว่า 127 คันให้เลือกใช้ ระบบเกมเพลย์ยังคงเดิมแต่มีการปรับระบบดริฟต์ให้ดียิ่งขึ้น ทว่าแม้ทีมพัฒนาจะมาถูกทางแล้วแต่ก็ยังมีข้อสังเกตกับเรื่อง AI ไม่สมดุลและเกมดูโล่ง ๆ รวมถึงยังมีบั๊กอยู่หลายจุดแต่เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ประสบการณ์ในเกมลดลงมากขนาดนั้น หากใครเป็นแฟนเกมนี้หรือชอบเกมแข่งรถชิว ๆ ไม่ได้ยากหรือซีเรียสเท่า GT: Sport หรือ Forza เกม Need For Speed: Heat ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าหามาเล่นครับ
7.5/10
จุดเด่น (Pro)
- ออพชั่นระบบแต่งรถมีให้เลือกเยอะและเป็นอิสระมากกว่าภาคก่อน
- ระบบกลางวันและกลางคืนสร้างความรู้สึกรสชาติแตกต่างกัน 2 แบบทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ
- กราฟิกตอนกลางคืนสวยมาก
จุดสังเกต (Con)
-
- AI ไม่สมดุลเอามาก ๆ บางครั้งก็ยากไปบางครั้งก็เอาชนะได้ง่าย ๆ
- กราฟิกตอนกลางวันไม่สวยเท่าไหร่ ถนนและองค์ประกอบรอบข้างดูโล่ง ๆ เกินไป
- ระบบออนไลน์งั้น ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือตื่นเต้นกว่าภาคก่อน
รีวิวและเขียนบทความโดย Play4Thai
ขอบคุณ Electronic Arts Asia
สำหรับโค้ดเกมที่ให้เรามารีวีวครับ