เป็นเวลาหลายปีที่การวางจำหน่ายเกมของ Rockstar นั้นห่างกันมากโดยกว่าพวกเขาจะวางจำหน่ายเกมหนึ่งเกมจะต้องใช้เวลานานมากในเจนเนอร์เรชั่นนี้พวกเขาได้วางจำหน่ายเกมใหม่ออกไปเพียงหนึ่งเกมเท่านั้นคือ Read Dead Redemption 2 (เพราะ GTA 5 นั้นวางจำหน่ายบน PS3 และ Xbox 360 เป็นครั้งแรก) ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมาว่าทาง Rockstar ออกวางจำหน่ายเกมน้อยไปหรือไม่? แต่เมื่อผลงานออกมาเราได้เห็นถึงคุณภาพของเกมซึ่งออกมาดีมากดังนั้นมันเป็นเหตุทำให้พวกเขาใช้เวลาในการพัฒนานานอย่างไรก็ตามสถานการณ์หลังจากนี้อาจเปลี่ยนไป
ล่าสุดมีคนวงในของ Rockstar นามว่า SWEGTA ได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์เผยถึงบริษัทแม่ของ Rockstar อย่าง Take-Two ได้มีรายงานคำสั่งออกมาให้กดดันพวกเขาให้เปลี่ยนแผนดำเนินการธุรกิจของพวกเขากลับเป็นแบบเดิมเพื่อให้พัฒนาเกมออกมาจำหน่ายถี่กว่านี้ ทาง SWEGTA ได้เผยว่าแทนที่จะทุ่มเทกำลังทั้งหมดในกับเกมใหญ่ ๆ อย่าง Red Dead และ GTA แล้วในค่ายควรโฟกัสในการพัฒนาโปรเจคเกมที่สเกลเล็กกว่าเช่น Bully, Midnight Club, หรือ Manhunt เพื่อไปโอกาสให้กับทาง Rockstar ในการสร้างสรรค์ผลงานและวางจำหน่ายเกมออกมาได้ถี่และหลากหลายขึ้น
แม้ว่านี่อาจจะเป็นข่าวจากใครบางคนซึ่งยืนยันไม่ได้ว่าจริงหรือไม่จริงแจ่ทว่ามันคล้องจองกับข่าวเมื่อกลางปีที่แล้วที่ว่าคุณ Strauss Zelnick ซีอีโอของทาง Take-Two ได้ออกมาพูดถึงการดำเนินการธุรกิจของพวกเขาให้โฟกัสและเริ่มให้ความสำคัญกับโปเจคเกมสั้น ๆ เพื่อวางจำหน่ายเกมได้มากขึ้นในอนาคต ก็ต้องมารอดูกันครับว่างทาง Rockstar จะสามารถทำตามี่บริษัทแม่สั่งมาได้หรือไม่
Take-Two is reportedly pressuring Rockstar Games to return to their more frequent game release schedule.
Although this probably would be bad for bigger franchises like GTA and Red Dead, it could incentivize them to continue focusing on much smaller titles like Bully and Manhunt.
— SWEGTA (@SWEGTA) January 17, 2020
ข้อมูลจาก GamingBolt