เกม : Brawlout: Deluxe Edition
แพลตฟอร์ม : PS4, Xbox One และ PC
ราคา: 950 บาท
วันวางจำหน่าย: 26 มีนาคม 2020
ผู้เขียนเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยเล่นเกมประเภทต่อสู้มาบ้างแล้วเกมประเภทนี้เข้าใจได้ง่ายเพียงเลือกตัวละครที่ชื่นชอบไปประลองฝีมือต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามผ่านทักษะการใช้ท่าต่อสู้มากมาย แต่จะมีสักกี่เกมที่นำเสนอรูปแบบการต่อสู้ที่แปลกใหม่มากกว่าการเตะต่อยปล่อยท่าพิเศษออกมาบ้าง ทางผู้พัฒนาค่าย Angry Mod Game จึงต้องการสร้างเกมไฟติ้งรูปแบบใหม่ให้ดูน่าสนใจและแตกต่างจากแบบเดิมจนได้ออกมาเป็นเกมชื่อว่า Brawlout ความโดดเด่นของเกมคือความสมดุลระหว่างฉากการแข่งขันและคู่ต่อสู้ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว Brawlout หวังที่จะให้ความสำคัญกับเกมต่อสู้ในรูปแบบแปลกใหม่สนุกได้ทั้งครอบครัวและเสริมด้วยโหมดออนไลน์ไว้ท้าประลองเพื่อน ๆ ด้วยแต่มันจะดีจริงอย่างที่ว่าหรือไม่เรียนเชิญอ่านรีวิวเกม Brawlout แลกหมัดสุดเหวี่ยงไปกับเกมไฟติ้งแนวแฟนตาซี
เกมเพลย์
ก่อนอื่นต้องเรียนว่าเกม Brawlout ไม่ใช่เกมฟอร์มยักษ์ ดังนั้นเกมค่อนข้างจะมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่าย แน่นอนว่าเกมไม่มีโหมดเนื้อเรื่องแต่อย่างใด ดังนั้นผู้เล่นจะไม่รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเลย อย่างไรก็ตามมีตัวละครบางส่วนได้มาจากเกมอินดี้เกมอื่นเช่น Die-hard Grappler rushdown เป็นต้น โดยเกมนำเสนอตัวละครทั้งหมด 18 ตัวให้เลือกเล่นด้วยกัน + DLC ที่มีตัวละครเพิ่มมาอีก 6 ตัวรวมทั้งหมด 25 ตัวด้วยกัน (ไม่มีการยืนยันว่าจะมีตัวละครใหม่ในอนาคตหรือไม่) แต่ละตัวละครมีความสามารถสกิลแตกต่างกันไปครับ
มาพูดถึงตัวระบบเกมเพลย์หลักของเกมกันบ้างเกม Brawlout นำเสนอโหมดการเล่นทั้งหมด 3 โหมดได้แก่ Timed (จับเวลา), Stock (แบบดั้งเดิม) หรือ Team Battle (เป็นทีม) ทั้งหมดนี้สามารถเล่นแบบ VS ประลองกับเพื่อนแบบออฟไลน์ได้เลยรองรับสูงสุด 4 ผู้เล่น หรือสามารถเล่นแบบออนไลน์มัลติเพลเยอร์กับผู้เล่นทั่วโลกได้เลย หากมองโหมดการเล่นแล้วอันที่จริงไม่ได้ต่างจากเกมไฟติ้งปกติแต่ความแตกต่างมันอยู่ที่ระบบเกมเพลย์หลักครับ
เมื่อผู้เล่นเลือกตัวละครเลือกด่านก็เข้าสู่ฉากการต่อสู้มุมมองด้านข้างเหมือนเกมไฟติ้งทั่วไป ฉากมุ่งเน้นไปยังสถานที่สูงและด้านล่างเป็นน้ำไม่ก็เหว ทว่าฉากต่อสู้มีความลึกซ่อนอยู่ ผู้เล่นสามารถกระโดดขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบนหรือด้านล่างได้ อย่างไรก็ตามในฉากไม่ได้มีวัตถุใด ๆ ที่สามารถหยิบยกมาใช้ในการต่อสู้และค่อนข้างโล่งนอกจากนั้นบางฉากไม่รู้เลยว่าพื้นที่ด้านบนหรือด้านล่างนี้มันลงไปได้จริงไหมเพราะฉากมันกลมกลืนไปหมดเคยมีอยู่ด่านหนึ่ง ผู้เขียนนึกว่าสามารถโดดลงไปได้แต่ที่จริงกลับไม่ใช่ โดดไปตายเลยจ้า
ส่วนระบบการต่อสู้การทำคอมโบ้การวางปุ่มบนจอยคอนโทรลเลอร์ออกแบบได้อย่างเรียบง่ายเข้าใจได้ไม่ยากหลังจากผ่านช่วงการ Tutorial ก็เริ่มเล่นกันได้เลย เกมมุ่งเน้นทำคอมโบ้เตะต่อยสามารถปล่อยท่าพิเศษใส่กัน หลอดเลือดของเกมจะแตกต่างจากเกมต่อสู้ทั่วไปในเกม Brawlout เมื่อโดนดาเมจจากฝ่ายตรงข้ามหรือสร้างความเสียหายให้กับศัตรูหลอดก็จะลดพร้อมกับแสดงเปอร์เซ็นต์ความบาดเจ็บ หากเปอร์เซ็นต์ความบาดเจ็บเกิน 130%++ อันเป็นว่าเราจะทนความบาดเจ็บไม่ไหวก็จะแพ้ไป ดังนั้นเมื่อหลอดลดจนหมดแต่เปอร์เซ็นต์ความบาดเจ็บยังไม่เกิน 130%++ เราก็ยังมีโอกาสชนะได้แต่อาจจะต้องอาศัยทักษะเป็นอย่างมากเพราะเราใกล้จะตายแล้ว
ความพิเศษของเกมคือมุ่งเน้นการกระโดดซะเยอะเพราะอย่างที่ผู้เขียนบอกด่านต่อสู้ในเกมจะอยู่บนที่สูง เมื่อผู้เล่นตกลงไปก็เป็นอันว่าตายแล้วแพ้ไป แต่ด้วยระบบกระโดดนี้เองมันทำให้เกมมันลุ้นมากขึ้น เมื่อถูกศัตรูปล่อยกระบวนท่าจนตกหน้าผาเราก็ใช้สกิลกระโดด Double Jump กลับมายังพื้นของด่านได้บางครั้งตกเกือบถึงด้านล่างแล้วก็ยังมีสิทธิ์กระโดดพาตัวเองกลับขึ้นมาได้เช่นกัน เพราะความที่ตัวละครมันเล็กเลยมีความคล่องตัวสูงทุกตัว
แม้ว่าเกมจะมีความแปลกใหม่อยู่บ้างแต่ท้ายสุดแล้วมันคือเกมต่อสู้ธรรมดานี้เอง โหมดการเล่นก็น้อยมากเล่นโหมดคนเดียวไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรเพียงแต่ต่อสู้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นครับไม่ได้มีแรงจูงใจให้ต่อสู้เลยเหมือนเล่นฆ่าเวลาเท่านั้น ส่วนโหมดอื่น ๆ เช่นโหมด VS หรือโหมดออนไลน์ก็เพียงต่อสู้แข่งกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เท่านั้นเองรวมถึงเกมมีบั๊กเยอะสมควรมีจังหวะหนึ่งอยู่ดี ๆ ผู้เขียนก็ไม่สามารถขยับตัวได้จนต้องเริ่มเล่นใหม่เซ็งเลย =.=
กราฟิก
สำหรับกราฟิกของเกมออกเป็นแนวการ์ตูน ๆ ไม่ได้มุ่งเน้นความสวยงามแต่เน้นความเรียบง่ายแต่มันก็เป็นเกมอินดี้เนอะก็ไม่เน้นส่วนนี้เท่าไหร่ อย่างไรก็ต้องชื่นชมการออกแบบตัวละครของเกม ซึ่งผู้เขียนว่าเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ดี โดยตัวละครส่วนใหญ่ในเกมได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ต่าง ๆ เอามาสร้างเป็นตัวละครนักสู้ที่มีความสามารถเฉพาะตัวและออกแบบตัวละครได้ดีทีเดียวครับ ทางด้านฉากก็เรียบง่ายไม่มีลูกเล่นอะไรเป็นพิเศษอะไร
Verdict
Brawlout เป็นเกมต่อสู้ที่พยายามจะสร้างความแตกต่างจากเกมไฟติ้งทั่ว ๆ ไปโดยมุ่งเน้นระบบเกมเพลย์แปลกใหม่เน้นทำคอมโบ้หลบหลีกท่าต่อสู้ของศัตรูและระบบการกระโดดที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นรอดจากการตกจากพื้นที่สูง นอกจากนี้ฉากการต่อสู้ยังมีความลึก สามารถกระโดดไปยังพื้นที่สูงหรือพื้นที่ต่ำได้ ถึงแม้ว่าทางทีมพัฒนาจะพยายามสร้างความแปลกใหม่ ท้ายสุดแล้วมันก็เหมือนเกมต่อสู้ธรรมดาทั่วไปและไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือโหมดที่สร้างแรงจูงใจให้เล่นเกมเท่าไหร่เกมแต่มันเหมาะสำหรับเล่นฆ่าเวลาและเล่นกับครอบครัวซึ่งจะสร้างความเพลิดเพลินได้ไม่น้อยครับ
5.5/10
จุดเด่น (Pro)
- ระบบการกระโดดเจ๋งดีมันทำได้มากกว่าการกระโดดสองที
- การทำคอมโบ้เรียบง่ายเนื้อหาไม่รุนแรงสามารถสนุกได้ทั้งครอบครัว
จุดสังเกต (Con)
- ไม่มีเนื้อเรื่องให้ติดตามใด ๆ
- โหมดเกมค่อนข้างน้อยไม่ต่างจากเกมต่อสู้ทั่วไป
- ฉากต่อสู้ต่าง ๆ ค่อนข้างโล่งและบางครั้งแยกไม่ออกว่าพื้นที่ไหนไปได้บ้าง
- ตัวละครมีให้เลือกเล่นน้อย
รีวิวและเขียนบทความโดย Play4Thai
ขอบคุณ SCRYSOFT
สำหรับโค้ดเกมที่ให้เรามารีวีวครับ