สวัสดีครับทุกท่าน เราได้ก้าวเข้าสู่เจเนอร์เรชั่นใหม่กันเรียบร้อยแล้วกับเครื่อง PlayStation 5 เมื่อบทความก่อนเราได้แกะกล่องเครื่อง PS5 พร้อมเผยความรู้สึกแรกกันไปแล้ว หากใครยังไม่ได้อ่านสามารถกดคลิกที่นี่ได้เลย แล้วในบทความแรกเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน PS5 นี้เราจะมาเริ่มกันตั้งแต่การตั้งค่าเริ่มต้น (First Setup) การตรวจสอบและสิ่งที่ควรตั้งค่าเมื่อเปิดเครื่อง PS5 ครั้งแรก ซึ่งนั่นรวมไปถึงการเข้าสู่ระบบด้วย PSN ของท่านเองด้วย ก่อนเราจะเริ่มกันทางเว็บไซต์ของประกาศว่าต่อจากนี้นอกเหนือจากการเขียนอธิบายไปทีละขั้นตอน ทางเราจะมีการจัดทำวีดีโอคลิปใส่ไว้ช่วงท้ายของทุกบทความด้วย เมื่อเข้าใจกันแล้วเราไปเริ่มกันเลย
การเตรียมตัวก่อนเปิดเครื่องครั้งแรก
การเตรียมตัวก่อนเปิดเครื่อง PS5 ไม่ได้ต่างอะไรกับการเสียบสายไฟด้านหลังตัวเครื่อง เราจะทำการเสียบสาย HDMI 2.1 “ที่แถมมากับเครื่อง” ไม่ต้องเสียดายใช้ตัวที่แถมมากับเครื่องเลยครับ เพราะผู้ใช้งานบางคนสัญญาณภาพไม่แสดงผลบนหน้าจอเพราะไม่ได้ใช้สาย HDMI ที่มากับเครื่องนั่นเอง ส่วนสายไฟ AC Adapter สามารถเสียบเข้าไฟบ้านโดยตรงได้เลย ในช่วงแรกนี้หลีกเลี่ยงการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านสาย LAN ไปก่อนจนกว่าโซนี่จะออกเฟิร์มแวร์มาแก้ เท่านี้หากพร้อมแล้วสามารกดปุ่ม “Power” บนเครื่องเพื่อเปิดเครื่องขึ้นมากันเลย
การตั้งค่าเริ่มต้น (First Setup)
เมื่อเครื่องติด ไฟสถานะบนเครื่องจะติดเป็นสีน้ำเงินกระพริบ บ่งบอกให้รู้ว่าเครื่องกำลังบูทและเมื่อไฟเปลี่ยนเป็นสีขาวสัญญาณภาพจะปรากฏขึ้นที่หน้าจอแสดงผล พร้อมกับภาพแบบด้านล่างให้เราเสียบจอย DualSense ผ่านสาย USB Type-C เข้ากับเครื่อง PS5 จากนั้นก็กดปุ่ม “PS” บนจอยเพื่อให้จอยซิงค์
หากไม่มีข้อผิดพลาดระบบจะนำเราไปสู่ขั้นตอนต่อไป ขั้นตอนนี้ระบบจะให้เราเลือกภาษาของเครื่อง โดย PS5 มาพร้อมกับการรองรับภาษาไทยตั้งแต่เดย์วัน เราก็เลื่อนลงมาจะพบกับภาษาไทยแล้วกดปุ่ม “X” เพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้เลย (ป.ล โซนี่ตั้งมาตรฐานใหม่ขึ้นมาบน PS5 ให้ปุ่ม “X” ใช้ในการตกลง และปุ่ม “O” ใช้ในการยกเลิกหรือย้อนกลับ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้)
ขั้นตอนต่อมาระบบจะให้เราเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต อย่างที่ผู้เขียนกล่าวไว้ขั้นต้นว่าให้ใช้เป็น WI-FI ไปก่อน ก็ให้เราทำการเลือก WI-FI ของเราใส่รหัสแล้วกด “ตกลง” ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อกับ WI-FI ของเรา ถ้าสำเร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนต่อไป ระบบจะถามเราว่าจะใส่แผ่นเกมไปติดตั้งรอเลยไหม ตรงนี้แล้วแต่ทุกท่านนะ ถ้าอยากติดตั้งเกมแล้วก็ใส่แผ่นเข้าไป สำหรับผมเลือกกด “ดำเนินการต่อโดยไม่ใส่แผ่น” ครับ
ต่อมาระบบจะให้เลือก พลังงานสำหรับ Rest Mode โดย PS5 จะอนุญาตให้ผู้เล่นจัดการพลังงานของ Rest Mode ได้ ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบหรือกำหนดเองได้ ตัวเลือกแรกคือ “ประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด” หมายความว่าระหว่างเครื่องอยู่ใน Rest Mode เครื่องจะมีการตรวจสอบอัปเดตเกมอยู่ตลอดเวลา สามารถเชื่อมต่อกับ PlayStation App ได้ และจะอนุญาตให้ชาร์ทจอย DualSense ผ่านตัวเครื่องได้
อีกตัวเลือกคือพลังานต่ำ ระหว่างเครื่องอยู่ใน Rest Modeเครื่องจะใช้พลังงานต่ำดังนั้นคุณสมบัติบางชนิดถูกปิดการใช้งานเพื่อประหยัดพลังงาน เช่นระบบจะทำงานพื้นหลังน้อยลง จะอนุญาตให้ชาร์ทจอย DualSense ผ่านตัวเครื่องได้ หรือถ้าไม่ถูกใจสามารถกำหนดค่าเองได้ตามใจชอบ
เมื่อกดตกลงแล้ว ระบบจะพาเราไปที่หน้ายอมรับเงื่อนไขข้อกำหนดสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ระบบ PlayStation 5 เมื่อเราเข้าใจแล้วให้กดติ๊ก “ฉันยอมรับ” แล้วกดยืนยันเพื่อไปขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนสุดท้าย หากดรายอมรับเงื่อนไขแล้ว ระบบจะตรวจสอบให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ตัวล่าสุด แต่ในขั้นตอนนี้ผู้เขียนแนะนำให้ อัปเดตในภายหลังดีกว่า ก็ทำการกด “ภายหลัง”
ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการตั้งค่าเริ่มต้น (First Setup) เรียบร้อย มาถึงจุดนี้ระบบจะสร้าง “User1” ขึ้นมาเป็นโปรไฟล์เริ่มต้นให้ หลังจากนี้เราจะมาอัปเดตเฟิร์มแวร์เครื่อง, ลงชื่อเข้าไอดี PSN ของเรา และตั้งค่าที่จำเป็นก่อนที่เราจะไปทำอย่างอื่น
สิ่งที่ควรตั้งค่าเมื่อเปิดเครื่อง PS5 ครั้งแรก
มาก่อนที่เราจะลงชื่อเข้าไอดี PSN ของเรา มาอัปเดตเฟิร์มแวร์เครื่อง PS5 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดกันก่อนดีกว่า สำหรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของเครื่อง PS5 ทำได้ด้วยกัน 2 วิธีได้แก่อัปเดตผ่านอินเตอร์เน็ต และอัปเดตผ่าน USB (เราจะมาสอนวิธีอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่าน USB ในอีกบทความนึงนะครับ) เพื่อให้ไม่เสียเวลาเยอะเราจะทำการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านอินเตอร์เน็ตกัน
ขั้นตอนแรกคือไปเมื่อเข้ามาที่โปรโฟล์ “User1” แล้ว บริเวณหัวมุมขวามือจะมีไอคอนฟันเฟืองอยู่ หรือมันคือเมนูตั้งค่า (Setting) -> ระบบ (System) -> ซอฟท์แวร์ระบบ (System Software) -> การตั้งค่าและอัพเดทซอฟต์แวร์ (Update Software Setting)
เมื่ออยู่ในเมนูการตั้งค่าและอัพเดทซอฟท์แวร์แล้ว แล้วเลือกอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบ -> อัปเดทโดยอินเตอร์เน็ต จากนั้นระบบจะเตือนเราว่าระบบจะทำการรีสตาร์ทเพื่ออัพเดทระบบนั่นเอง เมื่อเข้าใจแล้วก็เลือก “อัพเดท” แล้วรอจนเสร็จ (ขั้นตอนนี้ห้ามถอดปลั๊กนะ)
เมื่อระบบอัพเดทเสร็จเรียบร้อยก็จะเปิดเครื่อง และให้เราเลือกเข้ามาที่โปรโฟล์ “User1” อีกครั้ง มาขั้นตอนนี้เราจะมาลงชื่อเข้าไอดี PSN ของเรา กันเลย จากเมนูหลักให้เราเลือก PlayStation Store ระบบก็จะฟ้องว่าเรายังไม่ได้ลงเชื่อเข้าใช้ ก็ให้เราทำการเลือกปุ่ม “ลงชื่อเข้าใช้” เลย
ขั้นตอนนี้ระบบจะให้เราลงชื่อเข้าสู่ไอดี PSN ของเรา ได้ด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่วิธีแรกคือกรอกที่อยู่อีเมล์ ID ของเรา และรหัสผ่านตามปกติ หรือหากใครได้ติดตั้ง PlayStation App เวอร์ชั่นล่าสุดบนสมาร์โฟนก็สามารถเปิดแอพ -> ไปที่เมนูตั้งค่า -> ลงชื่อเข้าใช้บน PS5 แล้วสแกน QR Code นี้ได้เลย ในบทความนี้เราจะวิธีแรกให้เรากรอกที่อยู่อีเมล์ ID และรหัสผ่านลงไป พอเสร็จก็กด “ลงชื่อเข้าใช้”
เมื่อระบบตรวจสอบแล้ว ระบบจะนำเรามาสู่ขั้นตอนต่อไปคือปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวโดยมีตัวเลือกให้เราเลือก 4 ตัวเลือก หรือจะตรวจสอบการตั้งค่าที่เราเคยตั้งไว้บน PS4 ก็ได้นะ แต่บน PS5 เราสามารถปรับค่าความเป็นส่วนตัวได้ละเอียดกว่า แต่ละตัวเลือกคืออะไรบ้างมาดูกันเลย
- เข้าสังคมและเปิดเผยตัว – ผู้คนจะเห็นข้อมูลทุกอย่างของเราตั้งแต่ชื่อจริง, ดูประวัติการสตรีม, ถ้วยรางวัล รวมไปถึงผู้เล่นคนใดก็ได้สามารถติดต่อส่งข้อความมาหาเราได้ ตัวเลือกนี้เหมาะกับ Youtuber, Steamer, content creator
- เล่นเป็นทีม – เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบเล่น Co-Op กับเพื่อน เน้นคนที่รู้จัก (เพื่อน และเพื่อนของเพื่อน) จำกัดไม่ให้คนแปลกหน้าส่งข้อความมาได้
- เน้นเพื่อน – ตัวเลือกนี้คือเน้นติดต่อพูดคุยเฉพาะเพื่อนเราเท่านั้น จำกัดไม่ให้คนแปลกหน้าส่งข้อความมาได้นี่รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
- ลุยเดี่ยวและโฟกัส – เหมาะในกรณีที่ต้องการโฟกัสในการเล่น ลุยเดี่ยวไม่อยากให้ใครติดต่อมาระหว่างเล่น ทั้งเพื่อนและคนแปลกหน้าจะติดต่อเรามาไม่ได้เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้
เมื่อเลือกได้แล้ว ระบบจะพาเราไปที่หน้าอธิบายรายละเอียดอีกทีนึง หากแน่ใจแล้วก็กด “นำไปใช้” ได้เลย หรือสามารถปรับแต่งออพชั่นเองเพิ่มได้ด้วยโดยการเลือก “ตรวจทานและปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว” ในเมนูนี้จะลงรายละเอียดมากขึ้นให้เราปรับตามใจชอบ หากแน่ใจแล้วก็กด “นำไปใช้”
เสร็จแล้วระบบจะมีการขออนุญาต “รวมรวมข้อมูล” ทางด้านสถิติเพื่อไปพัฒนาประสการณ์เกมให้ดียิ่งขึ้น เราสามารเลือกได้แบบเข้าถึงข้อมูลความผิดพลาด การทำงานของระบบ(ยกเว้นข้อมูลส่วนตัว) หรือจะเลือก “จำกัด” เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้นก็ได้ ตรงนี้แล้วแต่สะดวกครับ
ขั้นตอนต่อไประบบ PS5 จะบังคับให้เราใช้ 2 Factor Authentication หรือการพิสูจน์ตัวตนเพิ่มอีก 1 ชั้น หากพร้อมแล้วให้กด “ตกลง” จากนั้นระบบจะมีทางเลือกให้เราพิสูจน์ตัวตน 2 ทางได้แก่ ส่งข้อความ (บางท่านน่าจะตั้งค่าไว้แล้วสมัยเล่นบน PS4) หรือตัวเลือก 2 ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่คือพิสูจน์ตัวตนผ่าน “แอปรับรองความถูกต้อง” เรียกง่าย ๆ เลยมันคือการพิสูจน์ตัวตนโดยใช้ Token ผ่านแอป Authenticator ของ Google บนสมาร์โฟนสามารถดาวน์โหลดมาได้ทั้ง iOS และ Android
ผู้เขียนจะใช้ตัวเลือกที่สองพิสูจน์ตัวตนผ่านแอป Authenticator เมื่อสแกน QR Code ในแอป Authenticator มันก็จะปรากฏ Token ชื่อว่า “SONY” ตามด้วยชื่อ ID เราจากนั้นเราเอา Token นั้นมากรอกตามเวลาที่กำหนด จากนั้นก็ตกลง
เสร็จระบบจะพาเรามายังหน้ารหัสสำรอง ในกรณีที่แอป Authenticator ไม่ทำงาน ให้นำรหัสสำรองที่ปรากฏอยู่นี้มาใช้งานได้ รหัสแต่ละชุดสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้นนะ ดังนั้นใครเลือกวิธีการนี้อย่าลืมบันทึกรหัสเหล่านี้เอาไว้นะ เมื่อเข้าใจแล้วก็กด “เสร็จแล้ว”
จากนั้นระบบจะพาเรามาขั้นตอนต่อไป ระบบจะแค่ชี้แจงเกี่ยวกับฟีเจอร์ “ครอบครัวบน PlayStation” ว่าเราสามารถจำกัดเนื้อหา ใช้กระเป๋าตังร่วมกันได้เป็นต้น เราก็แค่กด “ตกลง” เพื่อรับทราบ
จากนั้นระบบจะนำพาเรามาขั้นตอนสุดท้าย หากภายในไอดีแล้วมีเกม PS4 ที่สามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ได้ฟรี มันจะมาปรากฏในหน้าจอนี้ให้เราได้ดาวน์โหลดกันเลยก็ได้ แต่ในขั้นตอนนี้ผู้เขียนกด “ภายหลัง” ไปก่อน แต่สำหรับท่านใดอยากดาวน์โหลดก็เลือกเกมแล้วดาวน์โหลดได้เลย
เมื่อเสร็จระบบจะพาเรากลับสู่เมนูหลัก ก่อนทำอะไรอย่างอื่นสิ่งแรกที่เราจะต้องไปตั้งค่าคือการ “ปิดโหมดพัก (Rest Mode)” เนื่องจากผู้ใช้งานหลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับ Rest Mode เยอะมาก เพราะฉะนั้นจนกว่าโซนี่จะออกเฟิร์มแวร์มาแก้ให้เราปิดใช้งาน Rest Mode ไปก่อน (บทความนี้เขียนขึ้น ณ เฟิร์มแวร์ PS5 เวอร์ชั่น 20.02-02.25.00) วีธีการปิดโหมดพัก (Rest Mode) ให้เราไปที่บริเวณหัวมุมขวามือจะมีไอคอนฟันเฟืองอยู่ หรือมันคือเมนูตั้งค่า (Setting) -> ระบบ (System) -> ตั้งเวลาให้ PS5 เข้าสู่โหมดพัก
พอเข้ามาถึงเมนูตั้งเวลาให้ PS5 เข้าสู่โหมดพักระบบจะมี 2 ตัวเลือกให้เราสามารถตั้งเข้าโหมดพักได้คือ ระหว่างเล่นสื่อ (ใช้บริการวีดีโอสตรีมมิ่ง) และขณะเล่นเกม ให้เรากดเปลี่ยนตั้งเวลาของทั้ง 2 ประเภทเป็น “ไม่เข้าสู่โหมดพัก” เพื่อปิดการใช้งาน
ถัดมาสำหรับใครที่เป็นสมาชิก PS Plus ก่อนจะไปทำอะไรต่อ ไปตั้งค่าอย่างสุดท้ายกันก่อนคือการปิดต่ออายุ PlayStation Plus อัตโนมัติซึ่งยังตามมาหลอกหลอนถึง PS5 วิธีคือบริเวณหัวมุมขวามือจะมีไอคอนฟันเฟืองอยู่ หรือมันคือเมนูตั้งค่า (Setting) -> ผู้ใช้และบัญชี -> บัญชี -> การชำระเงินและการสมัครสมาชิก
จากนั้นระบบจะพาเข้าสู่เมนูเป็นภาษาอังกฤษให้เราเลือก “Subscription” แล้วจะมีเมนู PlayStation Plus มาปรากฏขึ้นมาแบบด้านล่างนี้ และมันจะมีปุ่ม “Turn off Auto Renew ให้เรากดไปเลย
ต่อมาระบบถามต่อว่าแน่ใจหรือไม่ว่าจะปิด Auto Renew ให้เราเลือก Yes เสร็จแล้วไม่พอระบบให้ระบุเหตุผลด้วยนะว่าเหตุใดถึงไม่ต่ออายุ PlayStation Plus อัตโนมัติ ง่าย ๆ เลยก็เลือก “Other” ไป แล้วกด “OK” อีกครั้งก็เป็นอันเสร็จ
เป็นอันเรียบร้อยกับการตั้งค่าเริ่มต้นและตั้งค่าโปรไฟล์ต่าง ๆ จนครบคราวนี้เราก็พร้อมที่จะเล่นเกมกันเลย ผู้เขียนแนะนำหากยังไม่มีเกมอะไรเล่นเป็นพิเศษให้เล่นเกม Astro Playroom เพื่อลองสัมผัสประสิทธิภาพและคุณสมบัติใหม่ของ PS5 และ DualSense ไปก่อน หากใครทำตามแล้วยังไม่เข้าใจ สามารถทำตามคลิปวีดีโอช่อง Play4Thai TV บน YouTube ของเราด้านล่างได้เลย สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอตัวลาไปก่อนสวัสดีครับ
บทความโดย Play4Thai