ด้วยการมาถึงของเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5 มันอัดแน่นมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายทั้งการรองรับความละเอียดสูงสุดถึง 8K HDR รองรับอัตราเฟรมเรตสูงสุด 120 FPS รองรับ Ray-tracing เพื่อดึงประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดออกมาจาก PS5 เราควรจะเปลี่ยนโทรทัศน์ของเราที่บ้านดีไหม แล้วถ้าหากวางแผนจะเปลี่ยนจริง ๆ สมาร์ททีวีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนเหมาะสมกับ PS5 ที่สุด วันนี้ทางเว็บไซต์ Play4Thai จะมาแนะนำการเลือกซื้อสมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับ PS5 พร้อมแนะนำ 8 สมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับ PS5 ด้วยจะเป็นอย่างไรนั้นเรียนเชิญอ่านไปพร้อม ๆ กันเลย
ปัจจัยการเลือกซื้อสมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับ PS5 มีอะไรบ้าง
การเลือกซื้อโทรทัศน์สักเครื่องเพื่อมาใช้เล่นเกมบนเครื่องรุ่นใหม่แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และเรื่องที่ต้องด่วนสรุปตัดสินใจ มันมีปัจจัยรวมถึงวิธีการดูคุณสมบัติในเชิงเทคนิคหลายข้อที่เราควรทราบเพื่อแยกแยะความแตกต่างของทีวีแต่ละรุ่น/ยี่ห้อ นี่คือ 6 ปัจจัยที่เราควรคำนึงถึงเมื่อเราต้องการเลือกซื้อสาร์ททีวีสักเครื่องสำหรับ PS5
ความละเอียด: เป็นปัจจัยแรก ๆ ที่เราควรรู้ แน่นอนว่า PS5 รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 8K แต่ด้วยราคาสมาร์ททีวี 8K ณ ตอนนี้สูงมาก ๆ ซึ่งอันที่จริงต้องบอกกว่าเกม PS5 ส่วนใหญ่จะรันอยู่บนความละเอียด 4K หรือ 3840 x 2160 พิกเซล บางเกมอาจจะดูปรับความละเอียดเป็น Dynamic 4K ทำให้ความละเอียดอาจจะลดลงในบางจังหวะ ดังนั้นความละเอียดที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมบน PS5 คือ 4K ก็เพียงพอแล้ว
HDR: หรือ High Dynamic Range จะเพิ่มคุณภาพของพิกเซลที่ทีวีสามารถแสดงผลออกมาได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นและมืดลงมากขึ้นตามเนื้อหาที่เรากำลังชมอยู่ ซึ่งคอนโซลที่รองรับเทคโนโลยี HDR นี้มีมาตั้งแต่ PS4 Pro โดยสมาร์ททีวีส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมาพร้อมความละเอียด 4K พ่วง HDR มาในตัวอยู่แล้ว แต่เพื่อคุณภาพการแสดงผลสูงสุดสำหรับ PS5 แล้ว เราควรจะมองหาโทรทัศน์ที่รองรับ HDR10
120 FPS: ตอนนี้ PS5 รองรับอัตราเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 Frames-per-second (FPS) แล้วก็มีเกมพร้อมรองรับเฟรมเรตนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเลือกซื้อโทรทัศน์ที่ถูกต้องเพื่อมารองรับด้วย ณ ตอนนี้สามาร์ททีวี 4K ในตลาดส่วนใหญ่รองรับอัตราเฟรมเรตสูงสุดเพียง 60 FPS เท่านั้น เพื่อจะมารองรับอัตราเฟรมเรตที่สูงกว่านี้นั้นเราต้องมองหาสมาร์ททีวีที่มีความละเอียด 4K มาพร้อมกับพอร์ต HDMI 2.1 และรีเฟรชเรตที่ 120 Hz โดยสาย HDMI 2.1 โซนี่ได้แถมมาให้กับเครื่อง PS5 แล้วไม่ต้องซื้อเพิ่ม ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวมันการันตีได้ว่าโทรทัศน์ของคุณรองรับอัตราเฟรมเรต 120 FPS บน PS5 แน่นอน
Variable refresh rate (VRR): เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญทำให้อัตราเฟรมเรตนึ่ง ด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้โทรทัศน์ปรับอัตราการรีเฟรชให้เท่ากับอุปกรณ์ที่ปล่อยสัญญาณภาพออกมา เพราะถ้าอัตราการรีเฟรชไม่ดีพอจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Screen Tearing” หรือภาพขาดได้ ฟีเจอร์นี้ก็จะมาแก้ไขปัญหานี้ครับ สำหรับการรันอัตราเฟรมเรตให้ถึง 120 Fps สมาร์ททีวีจำเป็นต้องส่งสัญญาณภาพ Bandwidth ที่ 48 Gbps ซึ่งปัจจุบัน ณ วันที่บทความนี้เผยแพร่ PS5 ยังไม่รองรับ VRR นะครับ โซนี่จะปล่อยเฟิร์มแวร์มารองรับในอนาคต (ปัจจุบัน PS5 รองรับสัญญาณภาพ Bandwidth สูงสุดเพียง 32 Gbps เท่านั้น) แต่เราก็สามารถมองหาโทรทัศน์ที่รองรับไว้ก่อนได้ซึ่งต้องบอกเลยว่า ไม่ใช่สามาร์ททีวี 4K ทุกรุ่นจะรองรับ VRR โดยวิธีการเลือกซื้อง่ายมาก มองหาสสมาร์ททีวีที่มาพร้อมกับพอร์ต HDMI 2.1 มันจะมาพร้อมกับฟีเจอร์นี้
Ray-Tracing: มันคือหนึ่งในคุณสมบัติอันโดดเด่นของ PS5 เลยก็ว่าได้ แต่เราไม่ต้องกลัวว่าสมาร์ททีวีของเราจะไม่รองรับ มันรองรับหมดครับเพราะมันขึ้นอยู่กับการประมวลผลระบบแสดงของเครื่อง PS5 ไม่ได้เกี่ยวกับการแสดงผลบนทีวีแต่อย่างใด
Input latency: เป็นปัจจัยสำคัญมากในการเลือกซื้อโทรทัศน์เพื่อมาใช้เล่นเกมคอนโซล เพราะมันคือเวลาการตอบสนองเมื่อเรากดปุ่มและการตอบสนองนี้มาแสดงผลบนหน้าจอเรา ดังนั้นเราต้องการให้มันตอบสนองได้เร็วที่สุด โดยสมาร์ททีวี 4K ที่ดีจะต้องมี Input latency ระหว่าง 12ms – 20ms (เสี้ยววินาที) หากสมาร์ททีวีมี Input latency ประมาณ 30ms มันจะเห็นความล่าช้าได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเวลาเลือกซื้อสมาร์ททีวี 4Kให้ดูสเปกตรงนี้ดี ๆ
ขนาดหน้าจอ: ข้อนี้หลายคนมักจะมองข้ามไป แล้วมักจะเลือกขนาดหน้าจอใหญ่ ๆ ไว้ก่อน แต่การเลือกจอขนาดใหญ่ไม่ใช่ผลดีเสมอไปนะ มันขึ้นอยู่กับขนาดห้องและระยะห่างระหว่างทีวีกับตัวเราด้วย ถ้าซื้อ 65 นิ้วแต่ขนาดห้องเล็กหรือไว้ในห้องนอน เล่นคนเดียวแบบนี้ไม่เหมาะแล้วระยะห่างไม่พอดีจะทำให้ปวดตาเปล่า ๆ แล้วนั่งใกล้ๆ อาจจะไม่คมชัดเท่าทีวีขนาดหน้าจอ 50 – 55 นิ้วด้วย ดังนั้นก็จะเลือกซื้อสมาร์ททีวีสักเครื่องอย่าลืมวัดขนาดห้องและคำนึงถึงขนาดหน้าจอที่เหมาะสมด้วยนะ
8 สมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับ PS5
หลังจากเรารู้วิธีการเลือกซื้อสมาร์ททีวีสำหรับ PS5 แล้ว ทีนี้เรามาดูกันบ้างว่าสมาร์ททีวีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนที่เหมาะสมกับ PS5 มากที่สุด ต้องบอกก่อนว่าเราเจาะจงเฉพาะสมาร์ททีวีความละเอียด 4K เท่านั้น เราจะเรียงลำดับจากราคาแพงที่สุด ไปจนถึงราคาถูกที่สุด ซึ่งอาจจะมีตัดฟีเจอร์ออกไปแต่ก็ยังเหมาะสมที่จะซื้อมาเล่นกับ PS5 อยู่จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
LG OLED TV ThinQ AI รุ่น 48/55/65CX
สมาร์ททีวียี่ห้อ LG รุ่น OLED TV ThinQ AI CX มาพร้อมคุณสมบัติทุกอย่างที่เราได้กล่าวถึงด้านบน มาพร้อมความละเอียด 4K HDR10 พอร์ต HDMI 2.1 จำนวน 4 พอร์ต รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz และรองรับ VRR มันจึงรองรับเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 FPS และอัตรา Input latency อยู่ที่ 13ms นอกจากนี้ด้วยความที่เขาใช้พาแนลแบบ OLED ทำให้ภาพความชัดสีสันสดใสมากยิ่งขึ้น รุ่นนี้อาจจะมีราคาสูงหน่อยแต่คุ้มค่า
- ขนาดหน้าจอ: 48/55/65 นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.1, 120Hz, VRR
- อัตรา Input latency: 13ms
- ราคาเริ่มต้น : 49,990 บาท (48 นิ้ว), 61,900 บาท (55 นิ้ว), 88,990 บาท (65 นิ้ว)
Samsung Q80T QLED TV
หากคุณกลัวปัญหาเรื่อง Burn-In จากจอ OLED และราคาแพงของ LG OLED TV ThinQ AI CX ดังนั้นผู้เขียนขอแนะนำ Samsung Q80T มาพร้อมพาเนล QLED ออกแบบพิเศษทางบริษัทเคลมว่ามันสว่างกว่ายี่ห้ออื่น และอายุการใช้งานยาวนานกว่า ขณะเดียวกันให้มุมมองที่ดีกว่าและแสดงผลสีดำได้มืดกว่า มาพร้อมความละเอียด 4K HDR10 พอร์ต HDMI 2.1 จำนวน 1 พอร์ต รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz และรองรับ VRR มันจึงรองรับเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 FPS และอัตรา Input latency อยู่ที่ 10ms เท่านั้นถือว่าดีมาก ๆ มาพร้อมกับราคาที่ถูกลงมาหน่อย
- ขนาดหน้าจอ: /55/65/75/85 นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.1, 120Hz, VRR
- อัตรา Input latency: 10ms
- ราคาเริ่มต้น: 54,991 บาท (55 นิ้ว), 74,990 บาท (65 นิ้ว), 129,990 บาท (75 นิ้ว)
Sony Bravia XH9005 TV
โซนี่ออกวางจำหน่ายทีวีรุ่นนี้เพื่อมารองรับ PS5 โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ มาพร้อมความละเอียด 4K HDR10 พอร์ต HDMI 2.1 จำนวน 1 พอร์ต รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz และรองรับ VRR มันจึงรองรับเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 FPS และอัตรา Input latency อยู่ที่ 15ms แต่ด้วยความที่มันมาพร้อมราคาจับต้องได้ดังนั้นพาเนลของจอมันจะเป็น LED นั่นเอง นอกเหนือจากข้อนี้มันมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะดึงประสิทธิภาพ PS5 ออกมาได้ถึงขีดสุดในราคาจับต้องได้
- ขนาดหน้าจอ: /55/65/75/85 นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.1, 120Hz, VRR
- อัตรา Input latency: 15ms
- ราคาเริ่มต้น: 39,990 บาท (55 นิ้ว), 42,990 (65 นิ้ว), 89,990 (65 นิ้ว)
Sony KD-X8000H TV
สำหรับสมาร์ททีวีต่อจากนี้จะไม่รองรับเฟรมเรตสูงสุดถึง 120 FPS อีกแล้ว มาพร้อมด้วย Sony KD-X8000H TV สามารถรันเกมด้วยอัตราเฟรมเรตสูงสุด 60 FPS เนื่องจากมันไม่ได้มาพร้อมกับพอร์ต HDMI 2.1 และรีเฟรชเรต 120 Hz แต่มันมาพร้อมกับพาเนล LED ความละเอียด 4K HDR10 พอร์ต HDMI 2.0 เนื่องจากราคาที่มันถูกกว่ามาก ดังนั้นทางด้านอัตรา Input latency อยู่ที่ 21ms ซึ่งไม่เกิน 30ms ถือว่าพอรับได้อยู่ หากใครที่มีงบจำกัดแต่ต้องการเปลี่ยนโทรทัศน์มารองรับ PS5 รุ่นนี้ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใด
- ขนาดหน้าจอ: 49/55/65/75/85 นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.0
- อัตรา Input latency: 21ms
- ราคาเริ่มต้น: 20,490 บาท (49 นิ้ว), 22,990 (55 นิ้ว), 31,490 (65 นิ้ว)
Samsung Q60T QLED TV (QA55Q60TAKXXT)
มาถึงซัมซุงอีกตัวกับ Samsung Q60T QLED TV ภายใต้ราคาที่จับต้องได้แบบนี้สมาร์ททีวีรุ่นนี้มาพร้อมกับพาเนล QLED ความละเอียด 4K HDR10+ พอร์ต HDMI 2.0 ยิ่งไปกว่านั้นมันมาพร้อมอัตรา Input latency ที่ต่ำมาก ๆ 10ms เหมาะสำหรับเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง แล้วเนื่องจากมันไม่ได้ใส่ระบบปฏิบัติการ Android TV ดังนั้นแล้วราคามันจึงถูก และมีให้เลือกหน้าจอหลายขนาดเลย หากใครไม่ได้สนเฟรมเรต 120 FPS ตัวนี้เหมาะมาใช้งานกับ PS5 มาก ๆ
- ขนาดหน้าจอ:43/50/55/58/65/75/85/ นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.0
- อัตรา Input latency: 10ms
- ราคาเริ่มต้น: 12,990 (43 นิ้ว), 20,990 (55 นิ้ว), 30,990 (65 นิ้ว)
Panasonic TH-55FX800T TV
ถัดมาเป็นมิดเรนจ์สมาร์ททีวีอีกหนึ่งรุ่นจากค่ายพานาโซนิคที่อัดแน่นด้วยเพเนล LED ความละเอียด 4K HDR10+ พอร์ต HDMI 2.0 ถึงจะราคาเป็นรองลงมาแต่ต้องบอกเลยว่าทางด้านอัตรา Input latency ไม่เลวเลยนะอยู่ที่ 15ms ซึ่งน้อยกว่า Sony KD-X8000H ด้านบนเสียอีกครับ สมาร์ททีวีรุ่นนี้คุณภาพและราคาย่อมเยาเหมาะสมสำหรับใครกำลังมองหาสมาร์ททีวีราคาไม่แพงมาใช้งานกับ PS5
- ขนาดหน้าจอ: 49/55/65/ นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.0
- อัตรา Input latency: 15ms
- ราคาเริ่มต้น: 16,990 (55 นิ้ว), 24,990 (65 นิ้ว)
Samsung TU6900 TV
ซัมซุงรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นฮิตมากเนื่องจากราคาที่ถูกมาพร้อมสเปกใช้ได้มันจึงเป็นรุ่นที่หลายคนเลือกซื้อกัน สื่งที่ทำให้ Samsung TU6900 TV แตกต่างจากรุ่นด้านบนเพราะมันมาพร้อมกับพาเนล LED ธรรมดานั่นเอง แต่นอกเหนือจากนั้นคุณสมบัติเหมือนกันหมดครับ ความละเอียด 4K HDR10+ พอร์ต HDMI 2.0 มาพร้อมอัตรา Input latency ที่ต่ำมาก ๆ 10ms แล้วมีให้เลือกซื้อหลายขนาด และไม่ได้ใส่ระบบปฏิบัติการ Android TV เหมือนกันเพราะราคาที่ถูก แต่ด้วยราคาหมื่นต้น ๆ ก็ได้ขนาด 55 นิ้วแล้ว หากนำมาเล่นเกมบน PS5 อย่างเดียวถือว่าเหมาะสมมาก
- ขนาดหน้าจอ:43/55/65/75/82/ นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.0
- อัตรา Input latency: 10ms
- ราคาเริ่มต้น: 8,990 (43 นิ้ว), 11,990 (55 นิ้ว), 20,990 (65 นิ้ว)
Hisense 50E6F
หากใครต้องการสมาร์ททีวีราคาถูกลงมาอีก สามารถเล่นกับ PS5 ได้ดีและดู YouTube หรือ Netflix ได้ ผู้เขียนแนะนำตัวนี้เลย Hisense 50E6F มาพร้อมกับพาเนล LED ความละเอียด 4K HDR10+ พอร์ต HDMI 2.0 มาพร้อมอัตรา Input latency เมื่อรันที่ความละเอียด 1080p @ 60 FPS จะอยู่ที่ 11ms หากรันที่ความละเอียด 4K @ 60FPS จะอยู่ที่ 27ms ถือว่าไม่ได้แย่เลยอย่างน้อยก็ต่ำกว่า 30ms ด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่นบอกได้เลยคุ้มค่ามาก
- ขนาดหน้าจอ: 43/55/65/ นิ้ว
- คุณสมบัติ: 4K, HDR10, HDMI 2.0
- อัตรา Input latency: 11ms (1080p @ 60 FPS), 27ms (4K @ 60 FPS)
- ราคาเริ่มต้น: 7,490 (43 นิ้ว), 8,990 (55 นิ้ว), 13,990 (65 นิ้ว)
สรุป
จบกันไปแล้วกับบทความการเลือกซื้อสมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับ PS5 ที่สุด และนอกเหนือจากสมาร์ททีวีที่ผูเขียนแนะนำแล้ว ในตลาดยังมีสมาร์ทีวีราคาไม่แพงอีกมากมายให้เลือกซื้อและสเปกสามารถเล่นกับ PS5 ได้เหมือนกัน หวังว่าทุกท่านจะได้ความรู้แล้วช่วยประกอบการตัดสินใจของท่านนะครับ สุดท้ายนี้เราจะมีบทความเทคนิคการใช้งาน PS5 ออกมาอยู่เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นแล้วอย่าลืมติดตามเว็บไซต์เราเอาไว้นะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
บทความโดย Play4Thai