เปิดตัวอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบไปแล้วกับเกม Call of Duty: Vanguard เกมสไตล์ FPS จะนำท่านกลับสู่สมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ 2 กันอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้เกมกำหนดลงทั้ง PS5 และ PS4 รวมถึงแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้แก่ Xbox Series X|S, Xbox One และพีซี เกมจะประกอบได้ด้วยโหมดแคมเปญ โหมดออนไลน์ ซึ่งจะพัฒนาโดย Sledgehammer และแน่นอนขาดไม่ได้คือโหมดซอมบี้ซึ่งจะพัฒนาโดย Treyarch
สำหรับเรื่องราวในเกม Call of Duty: Vanguard ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Vanguard แตกต่างจากเกมสงครามโลกครั้งที่ 2 เกมอื่น ๆ หรือแม้แต่ Call of Duty: WWII คือแนวคิดของเกมคือไม่ได้เน้นไปที่เหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่มุ่งเน้นเจาะจงไปในการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครที่แต่งขึ้นแต่มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์ Vanguard บอกเล่าเรื่องราวการกำเนิดของกองกำลังพิเศษ ทหารไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการชั้นยอดของสนามรบในปัจจุบัน โดยจะแบ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งสี่แนวรบ—แอฟริกาเหนือ, แนวรบด้านตะวันออก, แนวรบด้านตะวันตก และแปซิฟิก แนวหน้าติดตามต้นกำเนิดของคนสี่คนที่จะมารวมตัวกันเพื่อระบุและพยายามหยุดยั้ง “โครงการฟีนิกซ์ ”
สี่คนนี้ได้แก่ อาเธอร์ คิงสลีย์ (Arthur Kingsley) โพลิน่า เปโตรวา (Polina Petrova) เวด แจ็คสัน (Wade Jackson) ลูคัส ริกส์ (Lucas Riggs) Vanguard จะให้คุณได้สัมผัสการต่อสู้และช่วงเวลาต่างๆ ในแนวหน้าของสงครามที่กำหนดตัวละครเหล่านี้และทำให้พวกเขาเป็นฮีโร่ก่อนที่จะรวตัวกันเพื่อยุติสงสราม ทั้งสี่คนนี้มีตัวตนในประวัติศาสตร์จริง ๆ
คิงส์ลีย์ หัวหน้าหน่วยกองกำลังพิเศษเป็นพลร่มอังกฤษที่มีรากฐานบ้านเกิดมาจากซิดนีย์ คอร์เนลล์ เรื่องราวของเขาทำให้เขาต้องอยู่ในสนามรบก่อนถึงวันดีเดย์โดยทำแนวป้องกันที่ชายหาดเพื่อให้การลงจอดที่นอร์มังดีเกิดขึ้นได้สำเร็จ เปโตรวา เธอมีต้นแบบมาจาก Lyudmila Pavlichenko นักแม่นปืนหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แจ็คสันมาจากเวอร์นอน “ไมค์” มิเชล ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “วีรบุรุษแห่งมิดเวย์” และสุดท้าย ริกส์ซึ่งมีรากฐานบ้านเกิดมาจากชาร์ลส์ อัปแฮม ได้รับขนานนามว่าวีรบุรุษจากแนวหน้าของสงครามในแอฟริกาเหนือ
ด้วยตัวละครต่างสัญชาติและต่างมุมมองประกอบกับด้วยไทม์ไลน์ที่ใหญ่กว่าและภูมิศาสตร์ที่กว้างขึ้นทำให้ทีมที่ Sledgehammer มีอิสระอย่างมากในการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเหล่านี้และค้นหาองค์ประกอบที่น่าสนใจภายในกลไกของเกมเพลย์ที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสเกมเพลย์ได้หลากหลายรูปแบบ
ส่วนทางด้านโหมดออนไลน์ Vanguard จะมาพร้อมกับแผนที่ 6V6 มีทั้งหมด 16 แผนที่และแผนที่แบบ 2v2 อีก 4 แผนที่รวมเป็น 20 แผนที่พร้อมให้เล่นในวันเปิดวางจำหน่าย ซึ่งเป็นเกม Call of Duty ที่มีแผนที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวันแรกของการวางจำหน่าย ตัวจะใช้เอ็นจิ้นตัวเดียวกับ Call of Duty: Modern Warfare ซึ่งได้รับการอัปเกรดสำหรับภาคนี้ด้วย
สำหรับชาวเพลย์สเตชั่น หากใครสั่งจองเกมผ่าน PlayStation Store จะมีสิทธิได้เข้าร่วมทดสอบ Open Beta โดยเกม Call of Duty: Vanguard จะมีราคา 2,390 บาทบน PS5 และ 1,990 บาทบน PS4 แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะเข้าถึงเกมทั้งเวอร์ชั่น PS4 และ PS5 จำเป็นจะต้องซื้อในรูปแบบ “Cross-Gen Bundle” นอกจากนี้ยังมี Ultimate Bundle ซึ่งมีราคาสูงสุดมาพร้อมกับไอเทมมากมายสามารถดูรายละเอียดผ่าน PS Store ได้เลย สุดท้ายนี้ไปชมตัวอย่างเปิดตัวเกม Call of Duty: Vanguard กันเลย
ข้อมูล และแหล่งข่าวจาก PushSquare