Electronic Arts และ DICE เปิดให้ชมรอบปฐมทัศน์ของตัวอย่าง Hazard Zone ที่เพิ่งออกใหม่อย่างเป็นทางการโดย Hazard Zone เป็นโหมดเกมเล่นหลายคนที่จะเล่นได้ในวันเปิดให้เล่น Battlefield 2042 ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้พร้อมกับโหมด All-Out Warfare และะ Battlefield Portal ซึ่งในโหมด Hazard Zone ผู้เล่นจะได้เล่นโหมดเกมใหม่เอี่ยมที่เน้นการเล่นเป็นทีมอันเปี่ยมไปด้วยการเดิมพันที่สูงลิ่วอีกทั้งยังมีการรวมระบบเล่นเกมแบบลุ้นติดขอบเบาะด้วยระบบแซนด์บ็อกซ์ที่ดีที่สุดของ Battlefield ซึ่งมีมาแล้วอย่างยาวนานตลอดเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมาทำให้การยิงทุกนัด การปะทะทุกครั้งและการตัดสินใจทุกอย่างล้วนมีความสำคัญ
ในปี 2040 วิกฤตการไฟดับทั่วโลกทำให้จำนวนดาวเทียมที่โคจรรอบโลกทั้งหมดลดลงถึงร้อยละ 70 ยิ่งไปกว่านั้น สถาณการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและรัซเซียก็ค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และทั้งหมดนี้ทำให้ดาวเทียมวงโคจรต่ำแบบชั่วคราวกลายเป็นวิธีการใหม่ในการรวบรวมข้อมูลของทั้งสองฝ่ายผ่านไดรฟ์ข้อมูลชุบรังสี
Hazard Zone จะสามารถเล่นได้กับแผนที่ทั้งเจ็ดของ Battlefield 2042 All-Out Warfare โดย Hazard Zone จะเป็นโหมดเกมแนวมุ่งไปยังจุดนัดพบแบบสี่ผู้เล่นซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกทีมได้ตามแนวการเล่นที่ต้องการ ทั้งนี้ Specialist แต่ละคนจะมาพร้อมยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ และจะมอบความแตกต่างให้กับทีม ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นที่ต้องการสร้างทีมที่เน้นหนักไปที่การโจมตีอาจพิจารณาเลือก Webster Mackay และ Maria Falck เข้ามาในทีมเพราะทั้งสองคนสามารถช่วยเหลือทีมด้านการเคลื่อนที่อย่างว่องไวและการรักษาไปด้วยเคลื่อนที่ไปด้วยได้แต่หากผู้เล่นที่ต้องการเล่นแนวป้องกันมากกว่าก็ควรเลือกเล่น Kimble “Irish” Graves หรือ Pyotr “Boris” Guskovsky เพราะทั้งสองคนนี้สามารถมอบ Fortification System และ SG-36 Sentry Gun ให้กับทีมได้ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้จะช่วยให้ทีมของคุณสร้างที่มั่นในแผนที่ได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ Specialist ที่เหลือได้รับการเปิดเผยออกมาแล้ว ผู้เล่นจะพบวิธีการใหม่ๆ ในการปรับทีมของพวกเขาให้เข้ากับแนวการเล่นใน Hazard Zone
ผู้เล่นจะต้องสร้างทีมที่เหมาะสมกับการทำภารกิจกู้ไดรฟ์ข้อมูลที่กระจายอยู่รอบๆ สนามรบโดยทีมจะต้องแข่งทำภารกิจเดียวกันนี้กับทีมฝ่ายตรงข้ามที่มีเป้าหมายเดียวกันรวมถึงความท้าทายต่างๆ จากสภาพแวดล้อมในแผนที่ เช่น พายุหมุนที่เคลื่อนเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวและกองกำลังรบในพื้นที่ที่จะมาแย่งทรัพยากรต่างๆ และแจ้งศัตรูรอบๆ ให้รู้ถึงตำแหน่งของทีมของผู้เล่น
Hazard Zone หนึ่งโหมดจะประกอบด้วยห้าช่วงเวลาหลัก – Strategize & Equip คือช่วงเวลาที่ผู้เล่นยืนยันจุดเริ่มต้น เลือก Specialist และเลือกยุทโธปกรณ์และอัปเกรด ต่อมาคือช่วง Insert ที่จะนำผู้เล่นลงสนามที่จุดที่กำหนดไว้แล้ว ถัดไปคือช่วง Retrieve อันเป็นช่วงที่ทีมจะปล่อย Intel Scanner และปะทะกับทีมของศัตรู, กองกำลังรบในพื้นที่และสิ่งแวดล้อมอันเป็นอันตรายรอบๆ ซึ่งต่อจากนั้นจะเป็นช่วง First Extraction ที่เป็นหนึ่งในสองทางเลือกของการเอาตัวรอดโดยอีกทางเลือกคือช่วง Last Extraction ที่ที่ทีมที่เหลือจะต้องสู้กันเพื่อกำหนดว่าใครจะอยู่และใครจะตายซึ่งการตัดสินใจของผู้เล่นในเกมจะส่งกระทบเป็นอย่างยิ่งต่อชัยชนะของทีม หากทีมเลือก Specialist อาวุธ อุปกรณ์และอัปเกรดได้ถูกต้อง พวกเขาก็มีสิทธิ์รอดออกไปได้สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นแบบ 15-20 นาทีกับจำนวนผู้เล่น 32 คนบน Xbox Series X|S, PlayStation 5 และพีซีหรือแบบ 24 คนในแผนที่ที่เล็กลงบน Xbox One และ PlayStation 4
ทีมที่รอดออกจาก Hazard Zone ได้จะได้รับรางวัลพื้นฐานรวมถึงรางวัลเพิ่มเติมตามจำนวนไดรฟ์ข้อมูลที่พวกเขานำกลับออกมาด้วยซึ่งผู้เล่นใน Hazard Zone จะได้รับรางวัลสองแบบได้แก่ XP ให้กับความคืบหน้า/แบตเทิลพาสส์ของพวกเขารวมถึง Dark Market Credits (DMC) อันเป็นหน่วยแลกเปลี่ยนที่ผู้เล่นใช้เลือกอาวุธ อุปกรณ์และอัปเกรดต่างๆ ที่เลือกได้ในตอนเริ่มต้นของ Hazard Zone ทุกเกมซึ่งจะมาเพิ่มความได้เปรียบในการรบซึ่งอัปเกรดเหล่านี้จะมีตั้งแต่เพิ่มกระสุน เปลี่ยนกระสุนไวขึ้นและเพิ่มช่องเก็บของไปจนถึงการชุบชีวิตเพื่อนในทีมที่ล้มอยู่โดยยิ่งผู้เล่นเก็บ Intel ได้มากเพียงใด พวกเขาก็จะยิ่งได้รับ XP และ DMC มากขึ้นเท่านั้น
ข้อมูล และแหล่งข่าวจาก EA Press Release