บริษัท Sony Cooperation ได้เผยแพร่ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2021 ของบริษัทที่เพิ่งสิ้นสุดลงวันที่ 30 กันยายนพบว่า PS5 สามารถขายออกไปได้กว่า 3.3 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้ ทำให้นับตั้งแต่ PS5 วางจำหน่ายเมื่อพฤศจิกายน 2020 เครื่องสามารถทำยอดขายได้มากถึง 13.4 ล้านเครื่องในเวลาไม่ถึงปีเท่านั้น นับว่าเป็นเครื่องเพลย์สเตชั่นที่ขายออกไปได้เร็วที่สุดก็ว่าได้
ขณะเดียวกันในไตรมาสที่ 2 นี้โซนี่ขาย PS4 ได้ทั้งหมด 200,000 เครื่องและหากไปรวมกับยอดขายทั้งหมดคือ 116.6 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นเครื่องเกมเพลย์สเตชั่นที่ขายดีลองลงมาจาก PS2 สำหรับด้านยอกขายเกมในไตรมาสดังกล่าวบน PS4 และ PS5 สามารถขายออกไปได้ถึง 76.4 ล้านเกมและ 7.6 ล้านเกมในนั้นคือเกมเอ็กซ์คลูซีฟของทางโซนี่เอง ผลคือธุรกิจเกมและบริการของ PlayStation สามารถทำกำไรให้กับบริษัทในไตรมาสนี้ถึง 4.02 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว
ปัจจุบันธุรกิจ PlayStation เป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของโซนี่ โดยคิดเป็น 27% ของรายได้ทั้งหมด ในช่วงไตรมาสดังกล่าว PlayStation ยังเป็นผู้มีรายได้สูงสุดของบริษัทโดยคิดเป็น 25% ของกำไรโดยรวมของบริษัทในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2021 แผนกเกมของโซนี่มียอดขายฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้น 287.4% ในขณะที่ยอดขายเกมรูปแบบแผ่นลดลง 17.6% ส่วนยอดขายเกมดิจิทัล (ผ่าน PS Store) เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดยอดขายของคอนเทนต์เสริม ซึ่งรวมถึง DLC และไมโครทรานส์แอคชั่น เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขายบริการเครือข่าย (PS Plus, PS Now) เพิ่มขึ้น 4.7%
ข้อมูล และแหล่งข่าวจาก PlayStation LifeStyle